ประโยชน์ของกาแฟ สรรพคุณ และอันตรายที่ควรรู้!
กาแฟเป็นพืชที่มีประโยชน์ นิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่ม ซึ่งได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก สายพันธุ์กาแฟในปัจจุบันมีหลากหลาย ทั้งเกิดขึ้นจากการตัดต่อด้วยฝีมือมนุษย์ และเกิดขึ้นจากการกลายพันธุ์ตามธรรมชาติ เป็นพืชในวงศ์ Rubiaceae มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Coffea robusta Pierre ex Froehner L. ส่วนชื่อทั่วไปเรียกว่า Coffee มีสายพันธุ์หลักที่จำหน่ายกันทั่วโลกคืออาราบิก้าและโรบัสต้า ซึ่งมีจุดแข็งและจุดด้อยที่แตกต่างกัน
ส่วนประกอบของต้นกาแฟ
ส่วนประกอบในทางพฤกษศาสตร์ของต้นกาแฟ มีดังนี้
- ลำต้น
ต้นกาแฟเจริญเติบโตมาจากรากแก้ว ต้นมีปล้องและข้อ มักเจริญเติบโตได้สูงสุด 2-3 เมตร และอาจสูงได้มากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมร่วมด้วย เนื้อไม้ค่อนข้างแข็งแรงเพื่อช่วยพยุงลำต้น ป้องกันการหักหรือบิดงอ โดยทั่วไปนิยมตัดแต่งเพื่อปลูกในแบบไม้พุ่ม ให้ง่ายต่อการเก็บเกี่ยว จะเริ่มมีกิ่งเมื่อลำต้นเจริญเติบโตไปได้ระยะหนึ่ง ขนานไปในแนวพื้นดิน หรือห้อยต่ำ ซึ่งเป็นจุดที่จะเกิดดอกและผลต่อไป - ใบ
เป็นใบเดี่ยว ลักษณะก้านสั้น ส่วนโคนและปลายของใบมีความเรียวแหลม ส่วนกลางจะอ้วนกว้าง สัมผัสผิวใบมีความเรียบ แต่ขอบจะมีรอยหยัก และอาจต่างกันไปตามสายพันธุ์ของกาแฟด้วย - ดอก
ส่วนมากแล้วดอกของต้นกาแฟจะเป็นดอกเดี่ยวมีกลีบดอกมีทั้งเกสรตัวผู้และตัวเมียในดอกเดียว เรียกว่าเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ส่วนของกลีบดอกมีราว 4-9 กลีบ และกลีบเลี้ยงอีกราว 4 กลีบ มีทั้งเกสรและรังไข่ เจริญเติบโตบนกิ่งตามซอกของโคนก้านใบ เมื่อบานจะมีกลิ่นหอมเหมือนดอกมะลิป่า มีสีขาวหรือสีครีม - ผล
จะเริ่มมีผลเมื่อดอกกาแฟบาน จากผลอ่อนเจริญเป็นผลแก่ใช้เวลาราว 7-8 เดือน เป็นลักษณะผลเดี่ยว ทรงรี กว้างราว 1.3 เซนติเมตร และยาวราว 1.5 เซนติเมตร ก้านผลสั้น ผลดิบจะเป็นสีเขียว เมื่อสุกจะเป็นสีแดงหรือเหลือง แล้วแต่สายพันธุ์ของกาแฟนั้น ๆ - เมล็ด
อยู่ภายในสุดของผล และเป็นส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลาย ลักษณะของเมล็ดจะพบได้ราว 1-2 เมล็ดใน 1 ผล รูปร่างกลมรี ขนาด 8-12 มิลลิเมตร เมล็ดคู่จะประกบอยู่ด้วยกัน หุ้มด้วยเปลือกที่เรียกว่ากะลา เมื่อกะเทาะออกจะพบส่วนของเมล็ดจะมีสีขาวเมื่อยังสด แต่หากเริ่มแห้งจะกลายเป็นสีเขียวอ่อน และนานวันเข้าจะค่อย ๆ กลายเป็นสีน้ำตาลอ่อน - ราก
ต้นกาแฟจะมีรากที่เจริญเติบโตเป็นรากแก้ว 4-8 ราก และยังประกอบด้วยรากแขนงและรากฝอยแตกออกมาอีกเพื่อช่วยในการดูดซึมอาหาร มีปริมาณ 60-80 เปอร์เซ็นต์ ขยายรากในแนวลึกประมาณ 20-30 เซนติเมตร
ประโยชน์และสรรพคุณของกาแฟ
1.สารสกัดในกาแฟจะถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารเสริมที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและลดน้ำหนัก ที่มีความปลอดภัยสูง เพราะเป็นสารที่มาจากธรรมชาติ
2.เมล็ดกาแฟนิยมนำมาผลิตเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ซึ่งราว 80% เป็นกาแฟอาราบิก้าและโรบัสต้า
3.กาแฟมีสรรพคุณช่วยป้องกันการเกิดโรค และกำจัดสารพิษในร่างกาย เนื่องจากอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้นการดื่มกาแฟสดที่สกัดใหม่ จึงดีกว่าการดื่มกาแฟสำเร็จรูปอย่างมาก
4.ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง เนื่องจากการดื่มจะช่วยทำให้ออกไซด์ในร่างกายแตกตัว ลดออกซิเจนที่มากเกินไปจนทำให้เซลล์เจริญเติบโตผิดปกติ
5.การดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป จะกระตุ้นการทำงานของสมอง ทำให้ตื่นตัว ทำงานต่าง ๆ ได้รวดเร็ว ลดความง่วงเหงาหาวนอนในระหว่างวัน
6.การดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกายราว 1 ชั่วโมง จะช่วยลดความรู้สึกเหนื่อยขณะออกกำลังกายได้ เนื่องจากมีคาเฟอีนที่เข้าไปออกฤทธิ์ต่อสมอง หลั่งสารเคทีโคลามีน
7.กาแฟช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญไขมัน ทำให้ร่างกายกำจัดไขมันส่วนเกินได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในการดื่มก่อนออกกำลังกาย
8.กาแฟจะมีสารที่ชื่อว่า Trigonelline เป็นสารที่มีคุณสมบัติทำให้กาแฟมีกลิ่นหอม รสชาติขม ซึ่งมีสรรพคุณช่วยป้องกันแบคทีเรียที่เป็นตัวการทำให้ฟันผุ
9.กลิ่นของกาแฟช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย จึงมีการสกัดเอาน้ำมันจากเมล็ดกาแฟไปใช้ทำเป็นน้ำมันหอมระเหย หรือผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่าง ๆ เพื่อให้เกิดกลิ่นหอม
10.ใช้เมล็ดกาแฟคั่วประมาณ 1 ช้อนโต๊ะมาถูไปมาที่ฝ่ามือ จะช่วยดับกลิ่นคาวจากเนื้อปลา หรือกลิ่นกระเทียมที่ติดแน่นได้
11.กากกาแฟที่เหลือจากการสกัด สามารถนำไปผสมทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ หรือโรยรอบต้นไม้กันหอยทากหรือแมลงบางชนิดได้
อันตรายหรือข้อควรระวังในการกินหรือใช้กาแฟ
1.การดื่มกาแฟมากเกินไป เสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะใจสั่น ร่างกายตื่นตัว ใจหวิว เหงื่อออกตามมือและเท้า รู้สึกวิงเวียนศีรษะ และความดันสูงได้ เนื่องจากได้รับคาเฟอีนเกินกว่าที่ร่างกายจะรับไหว
2.การดื่มกาแฟมาก ๆ อาจทำให้เกิดภาวะติดกาแฟ เมื่อไม่ได้ดื่มจะเกิดอาการปวดศีรษะ เนื่องจากร่างกายขาดคาเฟอีน ซึ่งถือว่าเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง
3.ผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูง หากดื่มกาแฟเข้าไปในปริมาณมาก เสี่ยงที่จะทำให้อาการของโรคกำเริบขึ้นมา
4.หากดื่มกาแฟก่อนนอน จะทำให้นอนหลับได้ยาก หรือนอนไม่หลับ ส่งผลให้ไม่สดชื่นเมื่อตื่นในตอนเช้า
5.การดื่มกาแฟขณะท้องว่าง เสี่ยงที่จะเกิดโรคกระเพาะในอนาคตได้ เพราะกาแฟจะไปกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดแผลและมีเลือดออกในกระเพาะหรือลำไส้ได้
จะเห็นได้ว่าประโยชน์ของกาแฟมีหลากหลาย เป็นพืชเศรษฐกิจที่ไม่เคยตกยุค มีเสน่ห์ในด้านกลิ่นและรสชาติที่ทำให้ผู้คนหลงใหล อีกทั้งสรรพคุณที่โดดเด่น ยังเป็นตัวชูโรงให้พืชชนิดนี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลกอีกด้วย