น้ำมันคืออะไร มีประโยชน์ ประเภทและอันตรายอะไรบ้าง?
น้ำมัน(Oil) คือ ของเหลวชนิดหนึ่งที่สกัดออกมจากพืช, สัตว์, แร่บางชนิด ไปจนถึงการสูบจากแหล่งกำเนิดที่มักเรียกกันว่าน้ำมันดิบ(Petroleum) คุณสมบัติหลักคือเป็นสารอินทรีย์ที่ไม่สามารถละลายหรือผสมเข้ากับน้ำได้ เนื่องจากโมเลกุลของน้ำมันไม่มีขั้ว ลักษณะมีความข้นหนืดกว่าน้ำ รวมถึงมีมวลมากกว่า การกล่าวถึงน้ำมัน จึงอาจหมายถึงน้ำมันที่มาจากพืชหรือสัตว์ แต่บ่อยครั้งก็ใช้เรียกน้ำมันดิบหรือน้ำมันปิโตรเลียมที่สูบขึ้นมาจากดิน ซึ่งน้ำมันชนิดหลังเป็นพลังงานเชื้อเพลิงหลักที่นำไปใช้ประโยชน์อย่างหลากหลาย
ต้นกำเนิดของสารอินทรีย์ชนิดนี้มาจากการสกัดและได้จากแหล่งกำเนิดโดยตรง เดิมทีการค้นพบน้ำมันมาจากซากฟอสซิลที่สะสมอยู่ในชั้นใต้ดิน เรียกว่าน้ำมันดิบ รากศัพท์ของคำว่าปิโตรเลียมมาจากภาษาละติน ซึ่งหมายถึง น้ำมันที่ได้มาจากการไหลซึมผ่านช่องหินขึ้นมา มีการค้นพบมายาวนานหลายพันปีก่อนคริสตกาล ซึ่งชาวจีนค้นพบโดยบังเอิญในขณะเจาะบ่อเกลือและนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงต้มน้ำเกลือ ส่วนในอาณาจักรเมโสโปเตเมีย น้ำมันที่ได้ไม่เพียงใช้ในการก่อสร้าง แต่ยังใช้เป็นยารักษาโรคภายนอกแทนขี้ผึ้งอีกด้วย ในขณะที่น้ำมันที่นำมาประกอบอาหาร ก็เป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมมนุษย์มายาวนานหลายพันปีเช่นเดียวกัน ใช้วิธีการสกัดเพื่อรีดเอาน้ำมันออกมา จากเมล็ดพืช หรือไขมันสัตว์ ดังนั้นน้ำมันจึงมีทั้งที่ใช้งานเป็นเชื้อเพลิงโดยเฉพาะ ไม่สามารถนำมารับประทานได้ และน้ำมันที่ใช้สำหรับทำอาหาร จะถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน
ประโยชน์ของน้ำมัน
1.น้ำมันที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ จะถูกนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิง ช่วยให้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนได้ เช่น การใช้ในรถยนต์, รถจักรยานยนต์, เรือน้ำมัน เป็นต้น
2.ช่วยเพิ่มความหล่อลื่นให้แก่เครื่องยนต์ ด้วยการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีปริมาณพอที่เหมาะสมตามแต่ละรถยนต์ต้องการ
3.ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงหรือน้ำมันที่ใช้ประกอบอาหาร สามารถนำมาทำเป็นตัวช่วยจุดไฟได้ เพราะคุณสมบัติเด่นคือเป็นสารไวไฟนั่นเอง
4.น้ำมันสกัดจากพืช จะสามารถนำไปใช้ทำอาหารได้ ไม่ว่าจะเป็นการทอด, ผัด, หรือทำขนม เป็นต้น
5.น้ำมันประกอบอาหาร ช่วยให้อาหารไม่ติดภาชนะ โดยเฉพาะการทอดอาหารบนกระทะ หรือการทาบนภาชนะก่อนทำ ช่วยให้อาหารหลุดออกจากแม่พิมพ์ได้ง่าย
6.ใช้เป็นน้ำมันหล่อลื่นกลอนประตู บานพับ หน้าต่าง หรือจุดอื่น ๆ ภายในบ้าน
7.สามารถใช้ใส่น้ำตะเกียงแบบจุดไฟ เพื่อช่วยให้แสงสว่างในยามฉุกเฉินได้
8.น้ำมันพืชที่ไม่มีกลิ่น หรือน้ำมันสน สามารถนำมาใช้ขัดเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน ช่วยทำให้เกิดความเงางาม เป็นการฟื้นฟูสภาพให้กลับมาดูเหมือนของใหม่อีกครั้ง
9.ช่วยรักษายืดอายุของเฟอร์นิเจอร์ ด้วยการใช้น้ำมันทาเคลือบ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์จากวัสดุหนัง ทำให้เงางาม และป้องกันการแห้งแตก เพิ่มความชุ่มชื้นให้วัสดุไปในตัว
10.น้ำมันที่สกัดได้จากพืชหรือสัตว์บางชนิด เช่น น้ำมันงา, น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันดอกทานตะวัน, น้ำมันปลา, น้ำมันมะกอก เป็นต้น มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะมีส่วนผสมของวิตามิน ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน รักษาสมดุล ทำให้ร่างกายแข็งแรง และยังช่วยกำจัดไขมันเลวได้อีกด้วย
11.น้ำมันมะพร้าวที่ผ่านการสกัดเย็น สามารถนำเอามาหมักผมแทนครีมนวด ช่วยดูแลเส้นผมให้มีน้ำหนัก และบำรุงหนังศีรษะไปในตัว
12.กลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิง ใช้เคลือบเครื่องมือช่างที่เป็นเหล็ก ช่วยป้องกันการเกิดสนิมได้
13.สามารถใช้น้ำมันเป็นตัวช่วยจุดเตาฟืนได้ ด้วยการจุ่มกระดาษหนังสือพิมพ์กับน้ำมัน พอให้ชุ่มที่ปลาย ก็สามารถช่วยจุดให้ถ่านติดได้ไวขึ้น
ประเภทของน้ำมัน มีอะไรบ้าง?
การแบ่งประเภทของน้ำมันตามลักษณะการใช้งาน จะแบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกัน ดังนี้
1.น้ำมันเชื้อเพลิง(Petroleum)
เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า “น้ำมันดิบ” ก่อนจะถูกนำมากลั่นออกมาเป็นน้ำมันประเภทต่าง ๆ สำหรับใช้งานด้านการขับเคลื่อน หรือใช้เป็นเชื้อเพลิง โดยทั่วไปเมื่อกลั่นออกมาแล้วจะได้เป็น น้ำมันเบนซิน, น้ำมันดีเซล, น้ำมันเตา ฯลฯ
2.น้ำมันประกอบอาหาร(Cooking Oils)
น้ำมันที่ได้จากการสกัด ทั้งจากพืชและจากสัตว์ ส่วนใหญ่ได้จากเมล็ด ส่วนไขมันสัตว์มักจะได้จากผิวหนังชั้นในที่กักเก็บไขมันเอาไว้ เช่น น้ำมันมะกอก, น้ำมันปาล์ม, น้ำมันรำข้าว เป็นต้น ส่วนน้ำมันจากสัตว์ที่นิยมใช้ เช่น น้ำมันหมู เป็นต้น ทั้งหมดนี้นำไปใช้ประกอบอาหารเป็นหลัก โดยใช้ในการทอด หรือผัด เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับจุดไฟ หรือตะเกียงได้ เพราะเป็นสารไวไฟเช่นกัน
อันตรายที่ควรระวังจากน้ำมัน
1.หากน้ำเอาน้ำมันพืชไปใส่แทนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะ เสี่ยงที่จะทำให้เครื่องยนต์เสียหายจนไม่สามารถซ่อมได้
2.การเก็บน้ำมันเอาไว้ในพื้นที่แห้งและร้อนจัด อาจเสี่ยงเกิดประกายไฟ เมื่อสัมผัสโดนน้ำมัน จะทำให้ไฟลุกไหม้ เกิดเป็นอัคคีภัยขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
3.ควันที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ของน้ำมัน เป็นมลพิษทางอากาศ หากสูดดมเป็นเวลานานติดต่อกัน ร่างกายจะสะสมสารพิษ นำมาซึ่งโรคร้าย โดยเฉพาะมะเร็งปอดได้
4.น้ำมันประกอบอาหารที่นำมาทอดซ้ำ เป็นอันตรายต่อร่างกาย เต็มไปด้วยสารก่อมะเร็งในปริมาณมาก
5.การรับประทานอาหารที่มีน้ำมันมาก โดยเฉพาะการทอดและผัด เสี่ยงที่ร่างกายจะสะสมไขมันเลวไว้ กลายเป็นต้นตอของการเกิดโรคร้ายในอนาคต เช่น โรคไขมันอุดตัน, โรคอ้วน, โรคหัวใจ และโรคความดันสูง เป็นต้น
ด้วยคุณประโยชน์อันมากมายของน้ำมัน หลังจากการค้นพบตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา ทำให้กลายเป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญของโลกที่ขาดไม่ได้ มีการใช้งานในปริมาณมากต่อวัน และดูเหมือนว่ากำลังขาดแคลน และอาจหมดไปในอนาคตข้างหน้า ดังนั้นการหาทางเลือกอื่นที่มาทดแทนจึงเป็นโจทย์สำคัญของเหล่านักธุรกิจ และผู้มีความรู้ เพราะน้ำมันคือสิ่งขับเคลื่อนสำคัญในการดำรงชีวิตที่ขาดไม่ได้