
รถยนต์คืออะไร มีประโยชน์ การดูแลรักษาและอันตรายอะไรบ้าง?
รถยนต์(Car) คือ ยานพาหนะชนิดหนึ่งใช้สำหรับการขับเคลื่อนบนบก มีแหล่งกำเนิดพลังงานที่ใช้ในการเคลื่อนที่ ส่วนล่างประกอบด้วยล้อทั้งหมด 4 ล้อขึ้นไป มีระบบเครื่องยนต์อยู่ภายใน ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงาน ทำให้ล้อเคลื่อนที่ได้
ความสำคัญของรถยนต์ถือว่าช่วยให้การดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์สะดวกสบายขึ้น ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินเพื่อไปถึงจุดหมาย แต่ใช้รถยนต์เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนที่รวดเร็วมากกว่า
การเกิดขึ้นของรถยนต์ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยที่ผู้คนใช้แรงสัตว์ในการลากจูง และขี่เพื่อเดินทาง เป็นเครื่องทุ่นแรงในยุคแรก กระทั่งเข้าสู่ช่วงหลังปฏิวัติอุตสาหกรรม มีการประยุกต์เอาระบบไอน้ำมาใช้ขับเคลื่อนยานพาหนะ และภายในปี ค.ศ.1886 วิศวกรชาวเยอรมันสามารถสร้างรถยนต์ที่ขับเคล่อนด้วยเชื้อเพลิงเผาไหม้สำเร็จเป็นคันแรกของโลก ซึ่งส่วนขับเคลื่อนมีโครงสร้างเหมือนลูกสูบของเครื่องจักรไอน้ำ แต่มีการเสริมอุปกรณ์ที่ช่วยเปลี่ยนเชื้อเพลิงเหลวให้กลายเป็นก๊าซ ติดตั้งวาล์วไอดีไอเสีย ทำให้ได้เป็นเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ซึ่งเชื้อเพลิงในยุคแรกเป็นน้ำมันเบนซิน ต่อมามีการคิดค้นใช้เครื่องยนต์ดีเซลล์ได้สำเร็จ
หลังจากนั้นในแต่ละประเทศได้มีการพัฒนารถยนต์มาอย่างต่อเนื่องพร้อมการจดสิทธิบัตร จากระบบสันดาปภายนอก ก็เริ่มพัฒนาเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายใน นำไปสู่รากฐานอุตสาหกรรมยานยนต์กันมากขึ้น และยังมีรถที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ากำลังพัฒนาและวางจำหน่าย
รถยนต์ในปัจจุบันกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้คนพยายามหามาใช้งาน นอกจากใช้เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ยังเป็นเหมือนเครื่องบอกฐานะ และเครื่องประดับทางสังคม โดยเฉพาะรถยนต์แบรนด์หรูราคาแพง

ประโยชน์ของรถยนต์
1.รถยนต์ช่วยให้เดินทางได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางไปทำงานเป็นประจำ
2.เมื่อเทียบกับการใช้ขนส่งสาธารณะ รถยนต์ช่วยให้ถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ลดระยะเวลาในการเดินทางหลายต่อ
3.มีความปลอดภัย ช่วยทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกัน ลดการเกิดอุบัติเหตุ และการบาดเจ็บเมื่อเทียบกับการเดิน หรือการใช้ยานพาหนะสองล้อ
4.เนื่องจากรถยนต์ในปัจจุบันมีระบบเบรก ABS และถุงลมนิรภัย จึงช่วยลดแรงกระแทกหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่บาดเจ็บหรือบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
5.เนื่องจากรถยนต์มีไฟเลี้ยว และไฟฉุกเฉิน ทำให้รถคันหลังที่ขับตามมารู้ว่าคันหน้าจะเดินทางไปฝั่งไหนด้วยการใช้ไฟเลี้ยว ทำให้เกิดความระมัดระวังมากขึ้น
6.บางจุดที่รถโดยสารสาธารณะเข้าไม่ถึง การขับขี่รถยนต์จะช่วยให้เดินทางไปถึงที่หมายได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว และจุดนัดหมาย
7.ช่วยให้สะดวกสบายในการเดินทางตอนกลางคืนได้ดี เพราะรถยนต์จะมีไฟส่องสว่าง ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย แม้จะเดินทางไปยังสถานที่ไม่คุ้นเคย ก็สามารถใช้ไฟหน้าและไฟสูงส่องสว่างมองเห็นเส้นทางได้
8.รถยนต์ส่วนบุคคลออกแบบมาให้รู้สึกได้ถึงพื้นที่ความเป็นส่วนตัว มีที่นั่งประจำเฉพาะของใครของมัน ไม่ต้องคอยเบียดเสียดเหมือนรถโดยสารสาธารณะ
9.เนื่องจากรถยนต์ออกแบบมาให้ปิดได้อย่างมิดชิด จึงช่วยป้องกันพายุฝน แดดและความร้อนได้ ด้วยการเปิดแอร์เพื่อลดอุณหภูมิ ทำให้รู้สึกสบายตัว และหากฝนตกก็ไม่ต้องกลัวเปียกอีกด้วย
10.มีพื้นที่นอกจากที่นั่งของคนขับและผู้โดยสาร สามารถเก็บสัมภาระและของใช้ส่วนตัวได้โดยไม่ต้องคอยถืออยู่ตลอดเวลา
11.มีความรวดเร็วในการเดินทางเมื่อเทียบกับยานพาหนะอื่น ๆ และสามารถเลือกเส้นทางที่ต้องการได้ด้วยตัวเอง
12.รถยนต์เปรียบเสมือนการเดินทางที่ช่วยยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิต ไม่ว่าใช้เดินทางท่องเที่ยวหรือทำธุระส่วนตัว
13.เป็นเหมือนตัวช่วยฝึกสมาธิและสติ เพราะต้องควบคุมรถทั้งคันเร่ง เบรก และพวงมาลัย อีกทั้งตายังต้องคอยสอดส่องเส้นทางอยู่ตลอดเวลา
14.การขับรถเป็นตัวช่วยฝึกการตัดสินใจ เพราะในขณะขับ จะต้องใช้สมองอยู่เสมอ ทำให้เป็นคนกล้าตัดสินใจ และทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
15.ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ให้เป็นคนที่ดูมีฐานะ ดูน่าเชื่อถือ เหมาะสำหรับเป็นเครื่องประดับเพื่องานธุรกิจ หรือคนที่ต้องเดินทางไปพบปะลูกค้าหรือคู่ค้าอยู่เป็นประจำ

การดูแลรักษารถยนต์อย่างถูกวิธี
1.เช็คระยะตามคำแนะนำของศูนย์รถยนต์กำหนดอยู่เสมอ แม้ว่าจะไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ ก็ตาม ซึ่งจะช่วยรักษาสภาพรถยนต์ให้ใช้งานได้อย่างไร้กังวลในระยะยาว
2.เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเมื่อถึงเวลา และเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพ เกรดสะอาด ซึ่งจะช่วยรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้ทนทาน ไม่เสื่อมสภาพก่อนเวลา
3.หมั่นเช็คลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ปล่อยให้ลมอ่อนหรือแข็งจนเกินไป ซึ่งจะช่วยลดแรงกระแทกที่มีผลต่อส่วนประกอบอื่น ๆ ในตัวรถยนต์ขณะขับขี่
4.หากรู้สึกว่ารถยนต์มีอาการผิดปกติขณะใช้งานแม้เพียงเล็กน้อย ก็ควรนำเข้าให้ช่างที่ชำนาณตรวจเช็ค เพื่อป้องกันความเสียหาย และอุบัติเหตุ
อันตรายที่ควรระวังจากรถยนต์
1.เนื่องจากรถยนต์มีเชื้อเพลิงที่ติดไฟได้ง่าย อาจเสี่ยงที่จะเกิดระเบิด หรือไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็วได้ หากมีต้นตอของประกายไฟเกิดขึ้น
2.ระบบเครื่องยนต์ขัดข้องในขณะใช้งาน อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง ตามมาด้วยการบาดเจ็บจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
3.รถยนต์เป็นยานพาหนะขนาดใหญ่ ทำให้มีจุดบอดที่มองไม่เห็น เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถคันอื่นบนท้องถนนได้
รถยนต์ถือว่าเป็นยานพาหนะที่มีประโยชน์ ทำให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางอยู่เป็นประจำ ทำให้เป็นของใช้ที่ได้รับความนิยม ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายสไตล์ ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ใช้งาน