ประโยชน์ของโกโก้ สรรพคุณ และอันตรายที่ควรรู้!
โกโก้เป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมในการปลูก และนิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มที่แพร่หลายไปทั่วโลก และเป็นส่วนผสมในการทำช็อกโกแลต โดยมีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Theobroma cacao L. ส่วนชื่อทั่วไปคือ Cocoa อยู่ในวงศ์ STERCULIACEAE
โกโก้เป็นต้นไม้ขนาดกลางถึงใหญ่ สูงประมาณ 4-8 เมตร มีใบเป็นรูปหัวใจ ยาวประมาณ 10-40 เซนติเมตร กว้าง 8-20 เซนติเมตร โกโก้เป็นพืชที่เกิดขึ้นในภูมิภาคเขตร้อนของทวีปอเมริกา และมีการปลูกในหลายประเทศ เช่น เม็กซิโก, โฮนดูรัส, เปรู และโบลิเวีย นอกจากการนำมารับประทาน ยังนิยมนำไปประยุกต์เป็นส่วนผสมของอาหารเพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน
ส่วนประกอบของต้นโกโก้
ต้นโกโก้มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ดังนี้
- ลำต้น
โกโก้เป็นไม้พุ่มที่มีขนาดใหญ่ ความสูงมีตั้งแต่ 4 เมตร ไปจนถึง 20 เมตรได้เลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมนั้น ๆ ส่วนการเพาะในแปลงปลูกจะมีความสูงราว 3-6 เมตร และแตกกิ่งด้านข้างเมื่อเริ่มสูง 1-2 เมตร สังเกตได้จากตาที่ยอด ซึ่งจะพัฒนาต่อไปเป็นกิ่งข้าง นิยมเรียกกันว่า “คาคบ” - ใบ
รูปทรงของใบต้นโกโก้จะมีก้านใบยาวมองเห็นได้ชัด ปลายแหลม โดยแบ่งออกเป็นใบที่เจริญเติบโตบริเวณกิ่งกระโดน และใบที่กิ่งข้าง จะมีขนาดเล็กกว่า ก้านสั้น ใบมีสีเขียวเข้ม เขียวอ่อน ไปจนถึงน้ำตาลอมแดง การเติบโตเป็นแบบเวียนสลับรอบลำต้น - ดอก
การออกดอกของต้นโกโก้จะออกเป็นกลุ่มอยู่ตามลำต้น มักจะพบได้บริเวณกิ่งใหญ่ที่แก่จัด ไปจนถึงตรงซอกกิ่งที่ใบแก่ร่วงไปแล้ว ลักษณะดอกสีขาวอมชมพู มีกลีบดอกทั้งหมด 5 กลีบ ส่วนของกลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อน ขนาดก้านดอกยาว 1-2 เซนติเมตร ส่วนขนาดของดอกเล็กราว 1 เซนติเมตร - ผล
เรียกได้ว่าเป็นส่วนที่นำไปใช้ประโยชน์มากที่สุดก็ว่าได้ โดยภายนอกผลของโกโก้จะเป็นเปลือกแข็ง มีรูปทรงยาวรี เหมือนผลนุ่น ออกผลตามกิ่งและลำต้น ก้านสั้นมาก ผิวด้านนอกขรุขระ มีร่องยาวตั้งแต่โคนถึงปลายผล ประมาณ 10 ร่อง ผลอ่อนเป็นสีเขียว จากนั้นเมื่อเริ่มสุกจะเป็นสีเหลือง และกลายเป็นสีแดงอมเหลือง หรืออมม่วง ภายในจะมีเมล็ดโกโก้ราว 20-60 เมล็ด เรียงตัวกันอยู่อย่างเป็นระเบียบที่แกนกลาง - เมล็ด
จะอยู่ด้านในของผลโกโก้ เมื่อผ่าออกจะมองเห็นเมล็ดเป็นทรงรี ขนาดยาวประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร ด้านนอกเมล็ดมีใยหุ้มเป็นปุยขาวนวล ส่วนเมล็ดจริงจะเป็นสีน้ำตาล ซึ่งปุยขาวดังกล่าวรับประทานได้ ให้รสชาติหวาน ส่วนเมล็ดจะต้องนำไปเข้าสู่กระบวนการหมักบ่ม และโดนความร้อนก่อนรับประทาน - ราก
ลักษณะของรากจะเป็นรากแก้ว เมื่อปลูกด้วยเมล็ดจะงอกลึกลงไปในแนวดิ่ง ลึกประมาณ 2 เมตร แต่หากมาจากการปักชำกิ่ง จะไม่มีรากแก้ว แต่จะเป็นรากแขนงกระจายตัวออกไปตามดินในแนวกว้างและแนวดิ่งประมาณ 2-3 ราก ความยาวประมาณ 5 เมตร ช่วยยึดลำต้นให้แข็งแรง
ประโยชน์และสรรพคุณของโกโก้
1.โกโก้มีสรรพคุณที่ช่วยให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น ด้วยการดื่มโกโก้ผสมนมอุ่นก่อนนอน จะทำให้ร่างกายผ่อนคลาย หลับลึก และตื่นขึ้นมาอย่างสดใส
2.มีสรรพคุณทางยา ทำหน้าที่ช่วยบรรเทาภาวะซึมเศร้า โรคเครียด และความวิตกกังวลได้อย่างไม่น่าเบื่อ ด้วยการเข้าไปกระตุ้นระบบประสาท ทำให้เกิดความผ่อนคลาย
3.เป็นพืชที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง และทำให้อาการอักเสบภายในร่างกายหายได้เร็วขึ้น ลดการอักเสบไม่ให้ลุกลามมากไปกว่าเดิม
4.สามารถนำมาใช้ทำเป็นเมนูเครื่องดื่มร้อนและเย็นได้ ด้วยการผสมกับนม หรือจะดื่มแบบเพียว ๆ ให้รสชาติหอมละมุน มีความขมเล็กน้อยถึงปานกลาง นิยมผสมกับน้ำตาลและครีมเทียมเพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อนยิ่งขึ้น
5.ใช้เป็นส่วนประกอบในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและขนมรสช็อกโกแลต ซึ่งโกโก้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการปรุงแต่งเพื่อให้ได้ช็อกโกแลตที่เข้มข้น
6.ใช้เป็นตัวช่วยปรุงแต่งกลิ่นในอุตสาหกรรมลูกอม และขนมหวาน ซึ่งจะใช้ผงโกโก้มาช่วยเพิ่มมิติให้กลิ่นดูน่าดึงดูดมากขึ้น
7.การผลิตโกโก้มาในรูปแบบของน้ำเชื่อมเพื่อนำไปใช้เคลือบเม็ดยาในอุตสาหกรรมการผลิตยา เพื่อช่วยลดความขมของยาเม็ดบางชนิดให้กินง่าย เช่น ยาควินิน เป็นต้น
8.ผงโกโก้สามารถนำเอาไปผสมนำยาสูบ ทำให้เกิดกลิ่นหอมขณะสูบ ซึ่งนิยมเป็นอย่างมากในอุตสาหกรรมยาสูบทั้งในประเทศและต่างประเทศ
9.ส่วนของโกโก้บัตเตอร์ หรือไขมันโกโก้ สามารถนำมาเก็บไว้ใช้ทำเป็นเนยในการปรุงอาหารแทนน้ำมันได้
10.โกโก้บัตเตอร์ที่ได้จากการสกัดจากเมล็ด นิยมนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง โดยเฉพาะลิปสติก เพราะมีคุณสมบัติละลายได้เมื่ออุณหภูมิสูงที่ 37 องศาเซลเซียส ทำให้คงรูปได้เมื่ออยู่ในอุณหภูมิห้องปกติ
อันตรายหรือข้อควรระวังในการกินหรือใช้โกโก้
1.ผู้ที่ร่างกายไวต่อคาเฟอีน ไม่ควรดื่มโกโก้มากเกินไป เพราะมีส่วนผสมของคาเฟอีนและสารเคมีที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ อยู่ด้วย อาจทำให้นอนไม่หลับ หัวใจเต้นเร็ว และเกิดภาวะกังวล กระสับกระส่าย ปัสสาวะบ่อยขึ้น
2.หลีกเลี่ยงการให้เด็กวัยทารกดื่มนมโกโก้ เพราะเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบต่อระบบการทำงานของหัวใจได้
3.ผู้ที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดจะต้องหลีกเลี่ยงการดื่มโกโก้ เพราะคาเฟอีนจะมีผลต่อหัวใจโดยตรง
4.ห้ามสัตว์เลี้ยงกินเครื่องดื่มโกโก้ทุกชนิด เพราะมีความเป็นพิษต่อร่างกายอย่างรุนแรง โดยเฉพาะช็อกโกแลตที่มาจากการใช้ผงโกโก้เป็นส่วนประกอบหลัก
โกโก้มีทั้งประโยชน์และข้อควรระวังในการนำไปใช้ ซึ่งการรับประทานอย่างเหมาะสม ปริมาณไม่มากจนเกินไป จะส่งผลดีต่อร่างกาย ซึ่งควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพในการผลิต เพื่อที่จะได้คงคุณค่าของสารอาหารได้ครบถ้วน