Menu
ประโยชน์
  • หน้าแรก
  • พืช
  • บุคคล
  • สิ่งของ
  • อาหาร
  • สถานที่
  • software
  • เครื่องไฟฟ้า
  • เบ็ดเตล็ด
ประโยชน์

ประโยชน์ของสับปะรด

Posted on 24 พฤษภาคม 202324 พฤษภาคม 2023 by Thaiapply
ประโยชน์และสรรพคุณของสับปะรด
ประโยชน์และสรรพคุณของสับปะรด

ประโยชน์ของสับปะรดสรรพคุณ และอันตรายที่ควรรู้!

สับปะรดเป็นพืชที่จัดอยู่ในประเภทผลไม้ มีประโยชน์อย่างหลากหลาย ทั้งในการนำมารับประทานสด หรือการทำส่วนประกอบในอาหารต่าง ๆ มีชื่อเรียกในทางวิทยาศาสตร์ว่า Ananas comosus (L.) Merr. ส่วนชื่อสามัญที่เรียกกันทั่วไปคือ Pineapple อยู่ในวงศ์ BROMELIACEAE มีรสชาติโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ ไม่มีเมล็ด เนื่องจากการปรับปรุงสายพันธุ์มาอย่างยาวนาน จึงทำให้ไม่ทราบแหล่งกำเนิดที่แท้จริงของสับปะรด

ส่วนประกอบของต้นสับปะรด

ส่วนประกอบตามลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของสับปะรด มีดังนี้

  • ลำต้น
    ลำต้นเจริญเติบโตในลักษณะพืชล้มลุก เชื่อว่ามีต้นกำเนิดแรกมาจากทวีปอเมริกาใต้ ความสูงโผล่พ้นดินราว 20-30 เซนติเมตร มีความกว้างราว 5 เซนตเเมตร มีลำต้นที่อยู่ใต้ดินและเหนือดิน รวมกันราว 80-100 เซนติเมตร ซึ่งที่โผล่ขึ้นมาจะตั้งตรง ส่วนของข้อและปล้องสั้น ห่างกันราว 2-5 มิลลิเมตร
  • ใบ
    ใบของสับปะรดจะมีความเรียว และเป็นร่องโค้ง ขอบมีหนามแหลมเล็ก มีความหนา ซึ่งแข็งแรงและมีความทนทานไม่หักหรือถูกพับได้ง่าย การเจริญเติบโตจะเป็นใบเวียนไปรอบลำต้นราว 5 รอบ มักจะมีราว  13 ใบ ส่วนใบที่ 14 จะตรงกับใบแรกด้านล่างสุด ซึ่งการเจริญเติบโตในลักษณะนี้ ก็เพื่อความอยู่รอดในสภาวะอากาศที่แห้งแล้ง กักเก็บน้ำไว้ภายในตามมมุมใบเพื่อนำไปใช้เป็นอาหาร
  • ดอก
    ช่อดอกสับปะรดในปัจจุบันวิวัฒนาการมาอย่างยาวนานจากช่อดอกในลักษณะ raceme มีส่วนของดอกย่อยและ bract เชื่อมต่อเข้าด้วยกันตรงแกนกล่องช่อดอก มีช่อดอกย่อยราว 100-200 ดอก เจริญเติบโตที่ก้านช่อดอก และมีความสมบูรณ์เพศในตัว มีทั้งกลีบเลี้ยง กลีบดอก และเกสรตัวผู้ สีของกลีบดอกที่โคนจะเป็นสีขาว ส่วนปลายเป็นสีฟ้าอมม่วง รูปร่างยาวรี
  • ผล
    ผลของสับปะรดเป็นลักษณะผลรวม เพราะผนังรังไข่ที่เชื่อมติดกัน รวมถึงดอกย่อยที่เรียงตัวชิดที่แกนกลางช่อดอก ผลและใบด้านบนสุด จะเติบโตไปพร้อมกัน ที่ตรงกลางผลจะมีแกนเนื้อเยื่อ เติบโตจากส่วนปลายยอดต้น ผลรูปทรงเหมือนเมล็ดสนขนาดใหญ่ โคนผลกว้างกว่าปลาย หากผลมีขนาดใหญ่ ทรงจะออกกลม แต่ถ้าหากมีขนาดกลางจะเป็นทรงรี ในขณะที่ผลขนาดเล็กจะเป็นทรงเกือบกลม เปลือกหนา มีส่วนที่เรียกว่าตาสับปะรดล้อมรอบอยู่
  • ราก
    รากสับปะรดเป็นระบบรากฝอยเป็นจำนวนมาก จะกระจายตัวออกจากจุดกำเนิดรากซึ่งมักจะอยู่ตามมุมใบที่เติบโตอยู่กับลำต้นใต้ดิน ซึ่งแบ่งเป็นรากดิน(soil root) หยั่งลึกได้มากถึง 50 เซนติเมตร และ รากมุมใบ(axillary root) เน้นดูดซึมธาตุอาหาร จะอยู่เหนือผิวดิน

ประโยชน์และสรรพคุณของสับปะรด

1.ใบสดของต้นสับปะรดสามารถนำเอามาใช้ทำเป็นยาแผนโบราณได้ ซึ่งมีสรรพคุณช่วยเป็นยาถ่ายพยาธิ  ขับปัสสาวะ และแก้กระษัย

2.ผลของสับปะรดที่สุก สามารถนำมารับประทานสด ซึ่งมีสรรพคุณทางเคมีที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร เนื่องจากมีเอนไซม์ที่ชื่อว่าบรอมีเลน ช่วยย่อยโปรตีน ช่วยลดอาการท้องอืด และอาการอาหารไม่ย่อยได้

3.เป็นผลไม้ที่มีส่วนผสมของเกลือแร่และวิตามินซีในปริมาณสูง จึงมักถูกนำไปสกัดเป็นยาสำหรับรักษาการอักเสบของเนื้อเยื่อ

4.การรับประทานผลสดที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน จะช่วยละลายเสมหะ ช่วยลดความเหนียวของน้ำลาย และลดภาวะอักเสบของกล้ามเนื้อ

5.การนำเอาผลดิบมารับประทาน ซึ่งจะมีรสชาติเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อย มีสรรพคุณเป็นยาระบายแบบอ่อน และยังใช้สำหรับห้ามเลือดได้

6.เนื่องจากเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะวิตามินและแร่ธาตุ ดังนั้นจึงช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ลดเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง

7.มีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย จึงเป็นเสมือนตัวช่วยชะลอวัย บำรุงผิวพรรณ ดูเปล่งปรั่ง อ่อนกว่าวัย ลดริ้วรอยได้ดี

8.เนื้อสับปะรดที่สุกงอม สามารถนำมาทำเป็นสับปะรดกวน แปรรูปเป็นขนมหวาน หรือไส้ขนมต่าง ๆ ที่ให้รสชาติดี และมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์

9.สับปะรดถูกนำไปทำเป็นแยมสำหรับทาขนมปัง และผสมในของหวาน ทำให้มีรสชาติที่ดียิ่งขึ้น

10.เนื่องจากมีกรดตามธรรมชาติ จึงมักนำเอาเนื้อสับปะรดมาคลุกเคล้าหมักกับเนื้อ หรือต้มกับเนื้อสัตว์ ซึ่งจะช่วยให้เนื้อมีความนุ่ม เปื่อยง่าย

11.นำไปใช้เป็นส่วนประกอบในอาหาร เช่น แกงสับปะรด, ผัดเปรี้ยวหวาน ซึ่งให้รสชาติที่อร่อย อาหารดูมีมิติด้านรสชาติมากขึ้น

12.น้ำสับปะรดมีส่วนช่วยในการสลายไขมัน เต็มไปด้วยไฟเบอร์ที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และยังมีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนักได้

13.การรับประทานสับปะรดจะช่วยลดความตึงเครียดและความวิตกกังวล เนื่องจากมีสารเซราโทนิน ทำให้อารมณ์ดีและรู้สึกผ่อนคลาย

อันตรายหรือข้อควรระวังในการกินหรือใช้สับปะรด
อันตรายหรือข้อควรระวังในการกินหรือใช้สับปะรด

อันตรายหรือข้อควรระวังในการกินหรือใช้สับปะรด

1.การรับประทานสับปะรดตอนท้องว่าง อาจทำให้ระคายเคืองที่กระเพาะอาหาร เนื่องจากปริมาณเอนไซม์มาก และอาจทำให้เกิดอาการปวดท้องตามมาได้

2.การรับประทานสับปะรดดิบมากจนเกินไป เสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะถ่ายท้องอย่างรุนแรง เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาระบาย

3.ผู้ป่วยเบาหวานต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานสับปะรดมากเกินไป เพราะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

4.เอนไซม์ในเนื้อสับปะรดอาจทำให้เยื่อบุในช่องปากโดยเฉพาะลิ้น หากรู้สึกอาการรุนแรง ควรหยุดรับประทาน และรีบกลั้วปากทันที

สับปะรดถือว่าเป็นพืชที่เต็มไปด้วยประโยชน์และสรรพคุณด้านสมุนไพร มีการนำมารับประทาน และใช้เป็นยารักษาอาการต่าง ๆ มาอย่างยาวนาน และเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยม นำไปแปรรูปได้ทั้งในของหวานและอาหารคาว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง...

ประโยชน์และสรรพคุณของกล้วยประโยชน์ของกล้วย ประโยชน์ของอโวคาโดประโยชน์ของอโวคาโด ประโยชน์และสรรพคุณของโกโก้ประโยชน์ของโกโก้ ประโยชน์ของกาแฟประโยชน์ของกาแฟ
  • ผลไม้
  • พืช
  • อาหาร
    • software
    • บุคคล
    • พืช
    • สถานที่
    • สิ่งของ
    • หมวดเบ็ดเตล็ด
    • อาหาร
    • เครื่องไฟฟ้า

    software การเดินทาง ของฝาก ของใช้ ของใช้ประจำตัว ของใช้ประจำบ้าน ของใช้ประจำสำนักงาน ของใช้ส่วนตัว คอมพิวเตอร์ ชาวพุทธ ซอฟแวร์ ทำบุญ ท่องเที่ยว ธรรมะ บ้าน ประกันชีวิต ประเพณี ประโยชน์ ปีใหม่ ผลไม้ พระพุทธศาสนา พืช ยานพาหนะ รถ ร่างกาย วันสำคัญ สถานที่ สถานศึกษา สมุนไพร สวดมนต์ สิ่งก่อสร้าง สิ่งของ สุขภาพ อาหาร อินเตอร์เน็ต เครื่องประดับ เครื่องสำอางค์ เครื่องใช้ในครัว เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องไฟฟ้า เทศกาล เว็บไซต์ โปรแกรม โรงเรียน

    พระเครื่อง เครื่องราง

    เว็บไซต์นี้

    • เกี่ยวกับเว็บไซต์
    • ประโยชน์ของเว็บไซต์
    • ประโยชน์ของ Google
    • ประโยชน์ของมวยไทย
    • รวมประโยชน์สิ่งต่าง ๆ ทั้งหมด

    เว็บไซต์แนะนำ

    • โค้ดสี.com
    • เมนูอาหาร.com
    • สื่อการสอน.com
    • ยามอุบากอง.com
    • เครื่องคิดเลข.com

    เว็บไซต์แนะนำ

    • คำขวัญ.com
    • พระคุ้มครอง.com
    • เครื่องคิดเลข.com
    • เวลาประเทศไทย.com
    • ปฏิทินปักขคณนา.com
    เว็บไซต์เพื่อความรู้และการนำประยุกต์ใช้ ไม่สงวนสิทธิ์ในการนำไปประยุกต์ใช้ แต่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกบทความไปเขียนบนเว็บไซต์ 2565 www.Thaiapply.com