เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

ไฟเบอร์ หรือ ใยอาหาร (dietary fiber)) คือ ส่วนประกอบของพืช ผัก และผลไม้ ที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถย่อยได้ แต่มีประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหารและสุขภาพโดยรวม
ประเภทของไฟเบอร์:
- ไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ (Soluble fiber): ละลายน้ำได้และกลายเป็นเจลในลำไส้ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น พบได้ในข้าวโอ๊ต ถั่ว เมล็ดเจีย และผลไม้บางชนิด เช่น แอปเปิ้ล ส้ม
- ไฟเบอร์ที่ไม่ละลายน้ำ (Insoluble fiber): ไม่ละลายน้ำ แต่ช่วยเพิ่มปริมาณกากอาหาร ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ป้องกันอาการท้องผูก พบได้ในผักใบเขียว ธัญพืชไม่ขัดสี และเปลือกของผลไม้
ประโยชน์ของไฟเบอร์:
ไฟเบอร์ หรือ ใยอาหาร มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ดังนี้
1. ส่งเสริมระบบขับถ่ายที่ดี:
- ไฟเบอร์ช่วยเพิ่มปริมาณกากอาหาร ทำให้อุจจาระนิ่มขึ้นและขับถ่ายง่ายขึ้น
- ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการท้องผูก
- ลดความเสี่ยงของโรคริดสีดวงทวาร
- ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
2. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด:
- ไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่
- ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน
3. ลดระดับคอเลสเตอรอล:
- ไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและหลอดเลือด
4. ควบคุมน้ำหนัก:
- ไฟเบอร์ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ช่วยลดปริมาณอาหารที่รับประทาน และควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้น
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือควบคุมน้ำหนัก
5. บำรุงสุขภาพลำไส้:
- ไฟเบอร์เป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ (Probiotics) ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์เหล่านี้
- จุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้มีบทบาทสำคัญในการย่อยอาหาร สร้างวิตามิน และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
6. ลดความเสี่ยงโรคต่างๆ:
- การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน

7. ช่วยให้ผิวพรรณสดใส:
- ไฟเบอร์ช่วยในการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย ทำให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง
แหล่งอาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์:
- ผัก: ผักใบเขียว บรอกโคลี กะหล่ำปลี แครอท หน่อไม้ฝรั่ง
- ผลไม้: แอปเปิ้ล ส้ม ลูกแพร์ เบอร์รี่ต่างๆ
- ธัญพืชไม่ขัดสี: ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ลูกเดือย ข้าวบาร์เลย์
- ถั่วและเมล็ดพืช: ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเขียว เมล็ดเจีย เมล็ดแฟลกซ์
ปริมาณไฟเบอร์ที่ควรได้รับต่อวัน:
- ผู้ใหญ่ควรได้รับไฟเบอร์อย่างน้อย 25-30 กรัมต่อวัน
ข้อควรระวัง:
- การเพิ่มปริมาณไฟเบอร์ในอาหารอย่างรวดเร็วเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือท้องเสียได้ ควรค่อยๆ เพิ่มปริมาณไฟเบอร์และดื่มน้ำให้เพียงพอ
คำแนะนำ:
- เลือกรับประทานอาหารที่หลากหลาย เพื่อให้ได้รับไฟเบอร์ทั้งชนิดที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยให้ไฟเบอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับประทานไฟเบอร์