ประโยชน์ของส้ม กับคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย
ประโยชน์ของส้ม นอกเหนือจากรสชาติที่อร่อยแล้ว ยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย อุดมไปด้วยเส้นใยและสารอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกายมนุษย์ สามารถรับประทานได้ทั้งเด็กตลอดจนวัยชรา แต่การรับประทานส้มในเด็ก ๆจะต้องอายุมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป และควรรับประทานควบคู่กับน้ำในปริมาณ 50 / 50 เพื่อลดการละคายเคือง และยังช่วยให้เด็กที่ชอบกินติดหวานหันมาทานรสชาติที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการรับประทานส้มเป็นลูก การดื่มน้ำส้มคั้นสด หรือ น้ำส้มปั่น ก็มีประโยชน์กับร่างกายเช่นกัน เพียงแค่คุณค่าทางสารอาหารจะลดหลั่นไปตามกระบวรการแปรรูป
ทำความรู้จักกับส้ม ผลไม้ที่ทุกคนต้องเคยรับประทาน
ส้ม เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่นิยมรับประทานกันมาอย่างยาวนาน โดยจะจัดเป็นตระกูล Citrus รสชาติในการรับประทานจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละสายพันธุ์ บางสายพันธุ์ก็เปรี้ยวจัด บางสายพันธุ์ก็เปรี้ยวอมหวาน แต่ในส้มจะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ มากมายที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ และยังมีกากใยที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วสารอาหารเหล่านี้ก็จะเข้าไปเพิ่มกระบวนการทำงานของร่างกาย เหมือนกับเป็นยาชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้ สำหรับส้มในประเทศไทยจะมีหลากหลายสายพันธุ์ ยกตัวอย่างเช่น
ส้มเขียวหวาน, ส้มเช้ง, ส้มเกลี้ยง, ส้มจีน, ส้มจุก, ส้มจี๊ด และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งส้มแต่ละสายพันธุ์ก็ไม่ได้ให้คุณค่าทางสารอาหารที่ต่างกันออกไปสักเท่าไร ในส่วนของรสชาติก็จะแตกต่างกันออกไปเล็กน้อย ส้มที่มีรสชาติอร่อยจะเป็นส้มที่มีผิวเรียบเนียน ไม่ขรุขระ สีของส้มจะมีตั้งแต่สีส้มสด ตลอดจน สีเขียวอ่อน การรับประทานส้มในผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือ โรคไต จะต้องรับประทานอย่างระมัดระวัง เพราะในส้มจะประกอบไปด้วยน้ำตาล และ โพรแทสเซียมในปริมาณที่สูง การรับประทานส้มวันละไม่ควรเกินกว่า 100 กรัม หรือจะรับประทานผสมกับน้ำเปล่าก็ได้เช่นกัน
ประโยชน์ของส้มที่ส่งผลดีต่อร่างกาย
ประโยชน์ของส้ม และคุณค่าทางสารอาหารของส้ม 1 ลูก จะประกอบไปด้วย วิตามินซี, วิตามินเอ, เบต้าแคโรทีน, วิตามินบี, วิตามินดี, ธาตุแคลเซียม, ธาตุโพแทสเซียม, ธาตุฟอสฟอรัส, ธาตุเหล็ก, คอลลาเจน และ กากใยมากมาย การรับประทานส้ม 1 ลูก จะได้รับวิตามินซี มากถึง 70 มิลลิกรัม ส่งผลดีต่อร่างกาย ดังนี้
1. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ระบบขับถ่าย
ส้ม จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหาร ด้วยกากใยและใยอาหารที่อุดมอยู่ในส้มประมาณ 2.0 กรัม มีส่วนช่วยเรื่องของอาการท้องผูก, ท้องร่วง และ อาการผิดปกติที่เกิดจากระบบขับถ่าย
2. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
ส้ม ช่วยเสริมสร้างและกระตุ้นการทำงานช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันการเกิดอาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ตลอดจนอาการเจ็บป่วยขั้นรุนแรง การรับประทานส้มจะทำให้ร่างกายห่างจากโรค เพราะมีภูมิคุ้มกันที่ดี ป่วยยาก เพราะเชื้อโรคและไวรัสต่าง ๆ ที่อาจพบเจอได้ในทุกวันจะไม่สามารถเข้าไปถึงร่างกายได้ นอกจากนี้วิตามินซีในส้มจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เปรียบเสมือนเป็นเกาะป้องกันระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ยับยั้ง และจำกัดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อไวรัส
3. ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
ส้ม มีสารต้านอนุมูลอิสระในเนื้อส้มที่มีประโยชน์ ในการเข้าไปลดคอเลสเตอรอลในเลือดและปรับระดับคอเลสเตอรอลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม สารต้านอนุมูลอิสระเมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้วจะเข้าไปทำหน้าที่เปรียบเสมือนกับเกราะป้องกันให้กับหลอดเลือด ป้องกันไม่ให้มีอนุมูลอิสระเข้าไปสะสมในร่างกายที่อาจก่อให้เกิดไขมันพอก รวมถึง อาการอุดตัน ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ และ โรคหัวใจ และยังมีสารฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยป้องกันการอักเสบและเลือดจับตัวกันเป็นก้อน
4. ช่วยบำรุงให้หัวใจแข็งแรง
โพแทสเซียม ในส้ม จะช่วยบำรุงให้หัวใจแข็งแรง หัวใจจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีส่วนช่วยให้หัวใจเต้นปกติ และเพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือดให้ทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น ป้องกันการเกิดโรคหัวใจและโรคร้ายแรงเกี่ยวกับหัวใจ ส่งผลดีต่อระบบอื่น ๆ ในร่างกาย
5. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง
โรคมะเร็ง โรคร้ายแรงที่ไม่มีใครอยากเป็น การรับประทานส้มสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้หลากหลายชนิด เพราะในส้มจะมีไฟเบอร์มากมาย เข้าไปชำระล้างและทำความสะอาดของเสีย เชื้อแบคทีเรีย และ ไวรัส ที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า flavonoid ที่มีสรรพคุณในการปกป้องลำไส้ใหญ่ ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่, มะเร็งปาก, มะเร็งกล่องเสียง, มะเร็งเต้านม, มะเร็งผิวหนัง, มะเร็งปอด และ มะเร็งกระเพาะอาหาร
6. ช่วยบำรุงผิว
สารอาหารในส้ม ได้แก่ สารต้านอนุมูลอิสระ และ วิตามินซี เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะช่วยบำรุงผิว และปกป้องผิว เพิ่มระบบการทำงานของเซลล์ผิวให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น ผิวจะขาวกระจ่างใส ป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยทำให้เซลล์ผิวแข็งแรง ช่วยเพิ่มคอลลาเจนในร่างกาย
ส้ม มีประโยชน์มากมายทั้งส่วนของ เปลือก, ผล และ เมล็ด นอกเหนือจากประโยชน์ที่ได้กล่าวไปในข้างต้น ยังสามารถนำไปทำประโยชน์อื่น ๆ ได้อีก ยกตัวอย่างเช่น ลดความเสี่ยงโรคสโตรก, ลดความเสี่ยงโรคจอประสาทตาเสื่อม, ยับยั้งการเกิดแผลเปื่อย, สมานแผล และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย