
ประโยชน์ของลิปบาล์ม และข้อดี-ข้อเสียของการใช้
ลิปบาล์ม (Lip balm) หรือที่นิยมเรียกกันอยู่บ่อย ๆ ก็คือ “ลิปมัน” ลักษณะของตัวลิปบาล์มจะเหมือนขี้ผึ้ง มักพกพาติดกระเป๋าเอาไว้เพื่อบำรุงริมฝีปาก ป้องกันไม่ให้ริมฝีปากลอก รักษาความชุ่มชื้นในระหว่างวันเป็นหลัก ส่วนผสมของลิปบาล์มมีด้วยกันหลายชนิด ตั้งแต่ส่วนผสมที่มาจากสมุนไพรธรรมชาติ, ขี้ผึ้ง หรือพวกปิโตรเลียมเจล มีต้นกำเนิดมายาวนาน ในอดีตผลิตเป็นแบบก้อน ถูกห่อหุ้มใส่กระดาษผ้าไหม ใช้พู่กันขนาดเล็กแตะเพื่อทาริมฝีปาก ก่อนจะถูกพัฒนาให้มีการใช้งานที่ง่ายขึ้น มีความหลากหลาย เพราะในอดีตลิปบาล์มไม่มีสี ไม่มีกลิ่น แต่ในปัจจุบันจะมีลิปมันเปลี่ยนสี และมีกลิ่นต่าง ๆ ที่มีความหอมให้เลือกอีกด้วย
ประโยชน์ของลิปบาล์ม
1.ลิปบาล์มช่วยบำรุงริมฝีปาก ซึ่งเป็นผิวที่มีความบอบบาง ทำให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ
2.ช่วยป้องกันริมฝีปากให้เกิดการลอกเป็นขุย แตก หรือแห้งจนทำให้ผิวบริเวณนั้นไม่ยืดหยุ่น อาจแห้งหนักจนถึงขั้นเลือดออกได้
3.ช่วยป้องกันการแห้งของผิวปากในช่วงหน้าหนาวได้ดี เนื่องจากอากาศแห้ง ทำให้ความชุ่มชื้นที่ผิวหายไปอย่างรวดเร็ว
4.เมื่อทาเป็นประจำ จะช่วยลดการคล้ำของผิวปาก ช่วยทำปากแลดูชมพูเป็นธรรมชาติ
5.เนื่องจากลิปบาล์มส่วนมากไม่มีสี ดังนั้นผู้ชายจึงสามารถทาได้เช่นเดียวกับผู้หญิง
6.บางยี่ห้อจะผสมสารพิเศษลงไป มีคุณสมบัติช่วยป้องกันริมฝีปากไม่ให้สัมผัสกับแสงยูวีโดยตรง ซึ่งช่วยลดปัญหาปากคล้ำได้
7.ใช้ทาบำรุงขนคิ้ว ทำให้ขนคิ้วดกดำ ดูสุขภาพดี
8.ใช้เป็นตัวช่วยเซ็ตทรงผมได้ในเวลาเร่งรีบ หรือไม่มีผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมโดยตรง สามารถนำลิปบาล์มมาทาบริเวณผมที่ชี้ฟู จะช่วยทำให้ผมเรียบสวย เงางามขึ้น
9.ช่วยดูแลความชุ่มชื้นรอบดวงตาได้ โดยการใช้ลิปบาล์มที่ผลิตจากส่วนผสมธรรมชาติ ทารอบดวงตา โดยเฉพาะใต้ตา จะช่วยลดอาการใต้ตาคล้ำได้
10.ใช้ทาก่อนลงเครื่องสำอาง ในจุดที่ต้องการให้เครื่องสำอางติดทนนาน
11.เมื่อเกิดบาดแผลขนาดเล็กบนผิวหนัง สามารถใช้บรรเทาอาการเจ็บ ช่วยให้ผิวสมานตัวได้ไว
12.ลิปบาล์มที่เปลี่ยนสีได้ มักจะเปลี่ยนเป็นสีอ่อน ๆ สามารถประยุกต์ใช้เป็นบรัชออนที่แก้มได้ ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ แวววาว และติดทนนาน
13.เนื่องจากลิปบาล์มมีความมัน ใช้แทนสารหล่อลื่นได้ในกรณีที่มีปัญหาแหวนติดนิ้ว โดยทาที่นิ้วและขอบ ๆ แหวน จะทำให้ถอดออกได้ง่าย ลดการบาดเจ็บ
14.ช่วยทำให้น้ำหอมติดทนกับผิวได้นาน โดยการทาผสมกับน้ำหอมตามจุดชีพจรต่าง ๆ
15.ช่วยลดการเสียดสีของร้อนในได้ โดยการใช้ลิปบาล์มแบบก้อนเล็ก ๆ มาทาบริเวณที่เป็นแผล จะช่วยไม่ให้ผิวปากสัมผัสกับแผลโดยตรง
16.ลิปบาล์มแบบปิโตรเลียมเจล สามารถนำมาใช้ทาเป็นสารหล่อลื่นได้หลากหลาย โดยเฉพาะการทาบรรเทาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ผิวอักเสบแดง
17.ช่วยสะท้อนกลับแสงแดด และความร้อน รวมถึงรังสียูวี เสมือนเป็นเกราะป้องกันผิวปากเมื่อต้องเจอกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
18.ลิปบาล์มใช้ทาเพื่อความสวยงามได้ เพราะบางชนิดผสมสีอ่อน ๆ เพื่อให้ริมฝีปากดูสดใสมากขึ้น เช่น สีชมพู, สีส้ม ที่ได้รับความนิยม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสวยงามที่แลดูเป็นธรรมชาติ
ประเภทของลิปบาล์มแบ่งตามเนื้อสัมผัส
1. ลิปบาล์มแบบเหลว – เป็นลิปบาล์มที่ผลิตมาจากวัตถุดิบธรรมชาติ ส่วนประกอบหลักคือน้ำมันที่สกัดมาจากพืช เช่น น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันระหุ่ง, น้ำมันงา เป็นต้น จะได้ออกมาเป็นของเหลว ไม่แข็งตัว ให้ความชุ่มชื้นสูง มักบรรจุอยู่ในหลอด ใช้งานด้วยการบีบขึ้นมาผ่านรูที่เจาะเอาไว้ แล้วป้ายไปที่ริมฝีปาก
2. ลิปบาล์มแบบแข็งตัว – ลักษณะของตัวลิปบาล์มจะคงตัวอยู่ได้ ขึ้นรูปได้ ไม่เหลว เช่น ขี้ผึ้ง, วาสลีน, พาราฟิน เป็นต้น มักจะบรรจุไว้เป็นแท่งหมุนขึ้นลงได้ หรือบรรจุในกระปุกขนาดเล็ก แล้วใช้มือป้ายขึ้นมาเพื่อใช้งาน

ข้อควรรู้และสิ่งที่ต้องการระวังในการใช้ลิปบาล์ม
1.เลือกใช้ลิปบาล์มที่มีคุณภาพ เพราะบางยี่ห้ออาจมีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตราย ทำให้ผิวปากคล้ำหนักยิ่งขึ้นได้
2.สำหรับคนที่แพ้ง่าย แนะนำเลือกใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ นั่นก็คือ Beeswax ซึ่งได้จากรังผึ้ง รักษาความชุ่มชื้นที่ริมฝีปากได้ดี ลดการแห้งลอกได้ดี
3.หลีกเลี่ยงการใช้ปิโตรเลี่ยมเจลที่ไม่มีคุณภาพ เพราะได้จากส่วนประกอบของน้ำมัน เมื่อใช้ไปนาน ๆ เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง และมะเร็งอวัยวะภายในอื่น ๆ ได้ เพราะร่างกายจะรับเข้าไปผ่านการกินอาหารที่สัมผัสกับริมฝีปาก
4.พยายามเลือกใช้ลิปบาล์มที่มีมอยเจอไรเซอร์สูง ซึ่งจะทำให้ผิวปากได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ ไม่ต้องคอยหยิบมาทาบ่อย ๆ ลิปบาล์มถือว่าเป็นผู้ช่วยในการดูแลผิว โดยเฉพาะริมฝีปากโดยตรง ทำให้สุขภาพดี นอกจากนี้ยังสามารถทำหน้าที่ทาบริเวณอื่นของร่างกาย เพื่อช่วยรักษาสุขภาพผิวในส่วนอื่นได้ด้วย ประโยชน์ของเครื่องสำอางชนิดนี้ จึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และแน่นอนว่าเป็นไอเท็มติดกระเป๋าทั้งในหญิงและชายกันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว