ป้ายคืออะไร มีประโยชน์ วิธีใช้งานและข้อควรระวังอะไรบ้าง?
ป้าย(Sign) คือ เครื่องมือที่สร้างขึ้นมาโดยมีความหมายเฉพาะ เน้นเข้าใจง่าย กระชับสั้นมองเห็นครั้งแรกก็เข้าใจได้ทันที ป้ายมีทั้งแบบที่ใช้งานสำหรับบุคทั่วไปและแบบที่เป็นสัญลักษณ์เข้าใจกันเฉพาะในหน่วยงาน นิยมสื่อสารด้วยภาพหรือตัวอักษร วัสดุที่นำมาผลิตมีหลากหลาย อีกทั้งยังมีขนาดแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการใช้งาน เช่น ป้ายสำหรับบอกทาง, ป้ายบอกสถานที่, ป้ายหน้าร้าน, ป้ายชื่อร้าน, ป้ายบอกสถานะ เป็นต้น
อุปกรณ์ชนิดนี้เพิ่งถือกำเนิดและถูกใช้งานเมื่อไม่นาน ซึ่งนิยมใช้ในเชิงธุรกิจ ไม่ได้มีมาตั้งแต่ในยุคโบราณแต่อย่างใด เหตุผลที่มีการใช้งานป้ายกันมากขึ้น นั่นก็เป็นเพราะว่าการแข่งขันทางธุรกิจที่สูงมากขึ้นกว่าในอดีต ต้นกำเนิดของป้ายต่าง ๆ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่การวาด เพ้นท์ด้วยมือ และมีศิลปินที่ทำหน้าที่สร้างสรรค์ไม่มากนัก ป้ายแต่ละชิ้นจึงมีราคาแพง บริษัทที่เป็นเจ้าใหญ่ ๆ เท่านั้นที่มีเงินทุนมากพอจะสั่งผลิตขึ้นมา เนื่องจากป้ายทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ยบอกชื่อทางธุรกิจ ใช้งานเพื่อความสะดวกในสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงป้องกันอันตราย ทำให้ปัจจุบันเครื่องมือชนิดนี้ถูกรังสรรค์ให้ใช้งานในด้านการตลาด โปรโมตสินค้า ตั้งชื่อร้าน ไปจนถึงการบอกชื่อสถานที่ เรียกได้ว่าเป็นเครื่องเอนกประสงค์ที่ขึ้นอยู่กับว่าจะนำไปใช้งานในด้านไหนเป็นหลัก
ประโยชน์ของป้าย
1.ช่วยทำให้รู้ว่าคุณกำลังทำธุรกิจอะไร ด้วยการออกแบบเป็นป้ายชื่อร้านพร้อมคำบรรยาย และรายละเอียดการติดต่ออื่น ๆ
2.ทำให้ลูกค้ามองเห็นร้านของคุณในระยะไกลได้ง่ายมากขึ้น
3.ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยบอกชื่ออาคาร สถานที่ สิ่งของต่าง ๆ
4.หากเป็นร้านอาหาร หรือร้านค้า สามารถใช้เป็นตัวช่วยตกแต่งร้านให้ดูสวยงามมากขึ้นกว่าเดิมและมาพร้อมประโยชน์ด้วย เช่น ป้ายยินดีต้อนรับ, ป้ายเปิด-ปิด, ป้าย Welcome, ป้ายสวัสดี, ป้ายขอบคุณ เป็นต้น
5.การออกแบบป้ายให้มีความทันสมัย จะช่วยตกแต่งให้อาคารสำนักงานดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
6.เป็นตัวช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ที่สัญจรผ่านได้มองเห็นว่ามีกิจการอะไรที่อยู่ในทำเลที่ขับรถผ่านได้ง่าย
7.ทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา รู้ว่าห้องไหนเป็นห้องไหน เช่น หากต้องการเดินหาห้องน้ำ ถ้ามีป้ายบอกทาง และป้ายหน้าห้องน้ำแสดงเอาไว้ จะช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องคอยถามคนอื่น
8.ป้ายส่วนมากเน้นข้อความและสัญลักษณ์ที่กระชับ ช่วยให้เข้าใจได้ง่าย เกิดการจดจำต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างรวดเร็ว
9.ใช้เป็นตัวช่วยนำทาง ไม่ให้หลง โดยการติดป้ายบอกทางเอาไว้เป็นระยะ ๆ ทำให้สามารถไปถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็ว
10.ใช้เป็นที่กันแดด กันฝนได้ หากขนาดของป้ายมีขนาดใหญ่ และวัสดุเป็นพลาสติกหรือไวนิล ซึ่งป้องกันไม่ให้ฝนตกเข้ามา
11.ป้ายที่ผลิตจากวัสดุผ้า หรือไวนิลมีความเหนียว สามารถนำมารีไซเคิลกลายเป็นกระเป๋า หรือที่ใส่ของ ให้ความสวยงามไม่เหมือนใคร
12.ป้ายช่วยให้ผู้คนเข้าใจรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ประวัติศาสตร์ของสถานที่ ด้วยการเขียนลงไปบนป้ายให้คนอ่าน
13.ใช้เป็นป้ายบอกเส้นทางรถโดยสารสาธารณะ จุดเชื่อมต่อในการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ มีความกระชับสั้น ทำให้เกิดความเข้าใจง่าย
ประเภทของป้าย
สามารถแบ่งออเป็น 2 ประเภทใหญ่ ตามตำแหน่งการจัดวางดังนี้
1.ป้ายที่ใช้ติดตั้งภายนอกอาคาร
โดยทั่วไปป้ายจะมีขนาดใหญ่ และเน้นความทนทานเป็นพิเศษ เพื่อช่วยให้ทนแดด ความร้อน และฝน ทนทานต่อทุกสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมที่ตั้งเอาไว้ภายนอก เน้นใช้งานสำหรับเป็นป้ายโฆษณาธุรกิจสินค้า การประชมสัมพันธ์ หรือป้ายบอกสถานที่ วัสดุที่นำมาผลิตมักจะเป็นโลหะเคลือบกันสนิม บิลบอร์ดไวนิลที่สามารถติดกับมุมตึก หรือป้ายวัสดุแสตนเลสอลูมิเนียม เป็นต้น
2.ป้ายที่ใช้ติดตั้งภายในอาคาร
ส่วนใหญ่มักจะมีขนาดกะทัดรัด เนื่องจากใช้งานภายในอาคาร จึงต้องคำนึงถึงการใช้พื้นที่ไม่ให้เกะกะ รายละเอียดภายในป้ายใส่ได้ไม่มากนัก ดังนั้นอาจเป็นสัญลักษณ์หรือตัวอักษรกระชับสั้น มองเห็นได้ชัด เช่น ป้ายชื่อร้าน, ป้ายห้อง, ป้ายบอกทางภายในอาคาร, ป้ายสติกเกอร์, ป้ายดิสเพลย์ เป็นต้น ซึ่งวัสดุมีหลากหลายที่สามารถนำเอามาใช้ได้ ตั้งแต่ ไม้, พลาสติก ไปจนถึงเหล็ก หรือสแตนเลส ก็นำมาใช้ได้เหมือนกัน
ข้อเสียของป้ายมีอะไรบ้าง?
1.หากมีพื้นที่จำกัด อาจทำให้ไม่สามารถเสนอข้อมูลที่ชัดเจนได้มาก รายละเอียดไม่ครบถ้วน ทำให้คนอ่านสับสนได้
2.หากมีน้ำหนักมาก ติดตั้งได้ไม่ดีพอ เสี่ยงที่จะร่วงหล่นลงมาทับคนที่เดินผ่าน จนได้รับบาดเจ็บได้
3.บดบังทัศนียภาพ หากเป็นป้ายขนาดใหญ่ ทำให้มองเห็นทิวทัศน์ได้ไม่ชัด
4.หากจัดวางตำแหน่งของป้ายไม่ดี อาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ที่ผ่านเข้ามาได้ เช่น ป้ายเตือนอันตราย หากติดตั้งในมุมที่มองเห็นได้ยาก ก็ไร้ประโยชน์ในการใช้งาน
จะเห็นได้ว่าป้ายเป็นเครื่องมือในการสื่อสารรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ไม่ว่าจะมองไปทางไหน การสื่อสารด้วยป้ายก็ล้วนห้อมล้อม ทั้งขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่มาก อย่างไรก็ตามการดีไซน์ป้ายมีให้เลือกหลากหลาย ยืดหยุ่นในการออกแบบ จึงสามารถเลือกในแบบที่เหมาะสมกับธุรกิจและการใช้งานต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า และเป็นประโยชน์ต่อผู้มองเห็นด้วย
