เสื่อน้ำมันคืออะไร มีประโยชน์ ข้อดี และอันตรายอะไรบ้าง?
เสื่อน้ำมัน(Linoleum) คือ วัสดุที่ใช้งานสำหรับปูพื้นชนิดหนึ่ง เป็นสิ่งของที่มีประวัติความเป็นมายาวนานมาก ๆ และมีบทบาทสำคัญในชีวิตของมนุษย์มากมาย แม้ว่าในปัจจุบันก็ยังคงมีการใช้งานวัสดุชนิดนี้กันอย่างแพร่หลาย
ย้อนกลับไปในอดีตเสื่อน้ำมันถูกประดิษฐ์ขึ้นโดย Sir Frederick Walton ในปี ค.ศ.1855 ซึ่งวอลตันเป็นผู้ค้นพบคุณสมบัติอันยืดหยุ่นและพื้นผิวที่เป็นยางของ “น้ำมันลินซีด” (Linseed oil) ในปี ค.ศ. 1863 โดยเขาได้พัฒนาเสื่อน้ำมันครั้งแรก และเป็นผู้จดทะเบียนสิทธิบัตรสำหรับการผลิตในปีถัดมา
ความนิยมและการใช้งาน ใช้เป็นวัสดุปูพื้นผิวชั้นบนตามห้องสมุด ห้องเรียน โรงแรม โรงงาน และบ้านที่พักอาศัย เป็นต้น เนื่องจากมันมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อการถูกกัดกร่อน ทนความร้อน รอยขีดข่วน และช่วยปกป้องพื้นด้านล่างไม่ให้ถูกทำลาย การใช้งานได้ดีในระยะยาว และมีลวดลายหลากหลายให้เลือก
ตั้งแต่การค้นพบครั้งแรกมาจนถึงปัจจุบัน เสื่อน้ำมันได้มีการพัฒนาทางเทคโนโลยีในการผลิตมากขึ้น โดยการผสมร่วมกันของวัสดุต่าง ๆ เช่น ลินซีดน้ำมัน กระดาษ ผ้า และพิมพ์ลายหรือรูปแบบลงบนผิวที่ดูทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อให้มีความสวยงามและหลากหลาย ตอบโจทย์สำหรับการใช้งานของคนที่อยากตกแต่งพื้นให้ดูมีสีสันมากว่าจะเป็นพื้นปูนสีทึม ๆ ที่ไม่น่ามอง อีกทั้งยังเป็นวัสดุที่มีราคาถูก ดูแลรักษาความทำสะอาดได้ง่าย ไม่กักเก็บฝุ่น ไม่ต้องคอยซักทำความสะอาด หากเลือกใช้ชนิดที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน จะสามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องคอยเปลี่ยนผืนใหม่อยู่บ่อย ๆ
ประโยชน์ของเสื่อน้ำมัน
1.เสื่อน้ำมันช่วยในการกันน้ำได้เป็นอย่างดี เมื่อสัมผัสโดนน้ำจะไม่บวมหรือเปื่อยยุ่ย สามารถเช็ดทำความสะอาดให้แห้งได้อย่างรวดเร็ว
2.ใช้ปูพื้นแทนไม้ปาเก้ หรือกระเบื้อง ซึ่งมีราคาประหยัดกว่ามาก แถมยังติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว
3.สามารถเลือกใช้ลวดลายทดแทนวัสดุบางอย่างที่มีข้อจำกัดในการนำมาใช้งานปูพื้น เช่น ลายไม้ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะตามมาเหมือนกับการปูพื้นด้วยไม้จริง
4.ใช้ปูได้กับทุกพื้นผิวโดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย สามารถรื้อออกได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ทำลายพื้นผิวด้านล่างอีกด้วย
5.ใช้ปูพื้นห้องครัวที่ต้องทำอาหารอย่างหนัก ช่วยเช็ดทำความสะอาดคราบน้ำมัน และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ง่าย โดยไม่เกิดการสะสมของเชื้อโรค
6.ใช้ตกแต่งห้องต่าง ๆ ให้ดูสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นสไตล์มินิมอล, โมเดิร์นทันสมัย หรือจะเป็นสไตล์อื่น ๆ ก็สามารถช่วยเปลี่ยนบรรยากาศภายในพื้นที่ ๆ ต้องการได้
7.เป็นตัวช่วยทำให้บ้านเย็น เนื่องจากดูดซับความเย็นจากพื้นปูนขึ้นมาไว้ ช่วยประหยัดพลังงานในบ้านไปในตัว
ข้อดีของเสื่อน้ำมัน
1.เป็นวัสดุที่มีความทนทานและความเรียบเนียน อายุการใช้งานยาวนาน ช่วยปกป้องพื้นผิวหลักด้านล่างได้เป็นอย่างดี
2.การดูแลรักษาง่าย และไม่ต้องใช้เวลานาน สามารถทำความสะอาดได้ด้วยการเช็ดผิวด้วยน้ำและสบู่
3.มีความหลากหลายในลวดลายและสีให้เลือก ทำให้เป็นวัสดุที่มีการสร้างสรรค์และออกแบบผิวตามความต้องการของผู้ใช้ได้
4.สามารถทำการติดตั้งได้อย่างรวดเร็วและไม่ต้องใช้เวลานาน อีกทั้งยังติดตั้งด้วยตัวเองได้อีกด้วย
5.เนื่องจากเสื่อน้ำมันส่วนใหญ่ทำมาจากน้ำมันลินสีด เป็นวัสดุธรรมชาติจึงมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยมาก และไม่สร้างมลพิษอีกด้วย
6.พื้นเสื่อน้ำมันมีความทนทานเป็นพิเศษและทนทานต่อการสึกหรอ หากดูแลอย่างเหมาะสมก็สามารถอยู่ได้นานกว่า 40 ปี
7.ทนต่อการขีดข่วนและสามารถปิดบังรอยที่เกิดจากการสึกหรอได้ดีกว่าพื้นไวนิล
8.เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะเสื่อน้ำมันสามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพไม่เหมือนกับวัสดุปูพื้นสไตล์อื่น
9.ช่วยป้องกันไม่ให้ปลวกเข้ามาอยู่อาศัย เพราะสิ่งมีชีวิตชนิดนี้จะไม่ชอบเสื่อน้ำมัน ทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม้ต่าง ๆ ปลอดภัยมากขึ้น
อันตรายที่ควรระวังในการใช้งานเสื่อน้ำมัน
1.เสื่อน้ำมันที่ยืดหยุ่นหรือมีความบางมากเกินไป ซึ่งมักจะเป็นชนิดที่มีราคาถูก จะไวต่อรอยบุบจากขาเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ และทำให้ผืนเสื่อขาดเป็นรอยปุขึ้นมา บางจุดมีความแหลม หากเหยียบโดน อาจบาดเท้า หรือทำให้เกิดบาดแผลทะลุผิวหนังได้
2.หากไม่ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ใต้เสื่อน้ำมันจะเป็นแหล่งความชื้น ทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย และกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค
3.พื้นเสื่อน้ำมันที่ปูใหม่ ๆ และมีการเคลือบแว็กซ์ อาจลื่นและเสี่ยงต่อการลื่นล้มได้ง่าย
4.เสื่อน้ำมันที่ไม่มีคุณภาพ มีโอกาสที่จะผสมสารเคมีอันตรายเข้าไปเพื่อลดต้นทุน ทำให้เกิดการปล่อยสารประกอบที่เป็นอันตรายสู่อากาศ ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน หากสูดดมเข้าไปเป็นเวลานานติดต่อกัน เสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาวตามมา
นับว่าเสื่อน้ำมันเป็นวัสดุที่น่าสนใจและมีความหลากหลายในการใช้งาน โดยเฉพาะในการสร้างสรรค์พื้นผิวให้สวยงามได้ในราคาประหยัด ติดตั้งได้ในหลาย ๆ สถานที่ มีความทนทาน ปกป้องพื้นปูนไม่ให้เสียหายในระยะยาว อีกทั้งในสมัยปัจจุบันที่มีการใส่ใจกับการออกแบบและความความหลากหลายด้านสีสัน จึงช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความชอบ ทำให้งานสถาปัตยกรรมออกมาสมบูรณ์แบบได้อย่างที่ต้องการ