พรมเช็ดเท้าคืออะไร มีประโยชน์ การทำความสะอาดและอันตรายอะไรบ้าง?
พรมเช็ดเท้า(Doormat) คือ สิ่งทอที่มาจากวัสดุผ้าเป็นส่วนใหญ่ เชื่อกันว่าที่มาของชื่อ “doormat” มาจากคำภาษาละติน “doormata” ซึ่งแปลว่า “ผู้เฝ้าประตู” มีการค้นพบในยุคกลางในคริสตจักร Skog ในประเทศสวีเดนปี ค.ศ. 1912 และด้วยความเก่าแก่ของพรมที่ค้นพบ ปัจจุบันถูกจัดวางเก็บรักษาเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ของประเทศ ในเมืองสตอกโฮล์ม ลักษณะของพรมเช็ดเท้าเก่าแก่ผืนนี้ ถือว่าเป็นการค้นพบงานศิลปะและภูมิปัญญา วัสดุทำมาจากผ้าลินิน ใช้วางกับพื้นเพื่อเช็ดทำความสะอาดรองเท้า อยู่ตรงทางเชื่อมระหว่างประตูเข้าออก เพื่อกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกใต้พื้นรองเท้าก่อนเข้าบ้าน
ความเป็นมาของพรมเช็ดเท้านั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานยาวนานหลายศตวรรษ เริ่มต้นจากการใช้เป็นหนึ่งในวิธีการทำความสะอาดพื้นและป้องกันไม่ให้ฝุ่นและสิ่งสกปรกไม่ให้ตกลงบนพื้นบ้าน และหากย้อนกลับไปนานกว่านั้น มนุษย์ยุคแรกใช้ประโยชน์จากหญ้า เปลือกไม้ และสมุนไพรเป็นวัสดุปูพื้นเพื่อป้องกันฝุ่น และบางผืนที่ตัดแบ่งให้มีขนาดเล็กก็เพื่อเช็ดทำความสะอาดเท้าจากสิ่งสกปรก
เครื่องใช้ในบ้านชนิดนี้ได้รับความนิยม และมีหลากหลายขนาด ตั้งแต่แบบปูพื้นขนาดใหญ่ หรือขนาดกลางสำหรับวางใต้โต๊ะ และขนาดเล็กวางหน้าประตูทางเข้าบ้านก็มีให้เลือกตามการใช้งาน
ประโยชน์ของพรมเช็ดเท้า
1.ใช้เพื่อเช็ดทำความสะอาดเท้าก่อนเดินเข้าที่พัก ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน และส่วนสำคัญสุดของการทำความสะอาดเท้าคือการวางพรมเอาไว้ระหว่างประตูทางเข้าบ้าน
2.ช่วยดักจับฝุ่นละออง สิ่งสกปรก รวมถึงเชื้อโรคที่อาจติดมากับเท้าให้หลุดออกไปก่อนที่จะปะปนเข้ามาในตัวบ้าน
3.หากวางเอาไว้ตรงตำแหน่งหน้าห้องน้ำ จะใช้เป็นพรมสำหรับซับน้ำหลังอาบน้ำเสร็จแล้วได้ดี ช่วยให้เท้าแห้งไว ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นหกล้ม
4.พรมเช็ดเท้าบางชนิดถูกวางเอาไว้ภายในห้องน้ำ วัสดุผลิตจากพลาสติกหรือแผ่นพลาสวูด ช่วยขัดทำความสะอาดเท้าและกันลื่นไปในตัว
5.ใช้เป็นของตกแต่งบ้านที่ดูสวยงาม ทำให้พื้นห้องดูไม่จืดชืด ซึ่งมีหลากหลายลวดลาย รูปทรง และสีสันให้เลือกอย่างหลากหลาย
6.ใช้เป็นผ้าคลุมพื้นที่อาจมีเสี้ยนหนามจากไม้ทะลุขึ้นมา ป้องกันไม่ให้สมาชิกในบ้านมาเหยียบจนเกิดอันตรายได้
7.ใช้ปิดช่องบนพื้นที่ชำรุดเสียหายชั่วคราวได้ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในบ้านตามลำพัง
8.สามารถนำมาตัดเย็บให้เป็นรูปทรงขนาดเล็ก แล้วใช้รองขาโต๊ะหรือขาเก้าอี้ ป้องกันการขูดขีดกับพื้นจนเป็นรอยได้
9.ช่วยปกป้องพื้นด้านล่างพรมเช็ดเท้าให้สะอาดจากสิ่งสกปรกได้อยู่เสมอ
10.พรมเช็ดเท้าแบบนุ่มและหนา สามารถนำไปใช้เป็นที่นอนสัตว์เลี้ยงภายในบ้านในราคาประหยัดได้อย่างดีเยี่ยม
วิธีดูแลทำความสะอาดผ้าเช็ดเท้า
1.หากเป็นวัสดุผ้าทั่วไป ควรทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ด้วยการซักด้วยแปรงขัดผ้าเพื่อกำจัดเอาสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ติดอยู่ให้หลุดออกไป
2.เมื่อตากผ้าเช็ดเท้า ควรตากในช่วงเวลาที่แดดจัด เพื่อที่แสงแดดจะได้ทำหน้าที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อโรคอื่น ๆ ที่เป็นตัวการทำให้คนในบ้านเจ็บป่วยได้อย่างหมดจรด
3.หากเป็นวัสดุพลาสติกหรือแผ่นแข็งซับน้ำ ควรนำมาขัดด้วยแปรงทำความสะอาดด้วยน้ำยาซักผ้าให้ทั่วทุกซอกมุม แล้วตากแดดให้แห้งสนิท ก่อนนำกลับมาใช้งานใหม่
4.ไม่ควรตากพรมเช็ดเท้าในที่ร่ม เพราะจะทำให้เกิดเชื้อรา เสี่ยงที่เชื้อโรคจะเติบโตมากขึ้น
5.หากเป็นพรมเช็ดเท้าที่ใช้งานเช็ดทำความสะอาดเท้าทุกวัน และอยู่ในตำแหน่งที่จะเจอกับสิ่งสกปรกได้ง่าย ควรทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ถ้าหากไม่มีเวลาซัก อย่างน้อยควรนำไปตากแดดอย่างสม่ำเสมอ
อันตรายจากพรมเช็ดเท้าที่ต้องระวัง
1.พรมเช็ดเท้าที่ไม่ถูกดูแลทำความสะอาด เปรียบเสมือนแหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นเลิศที่ทำให้คนในบ้านเสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้ เกิดการเจ็บป่วยตามมาได้ง่าย
2.การนำเอาเสื้อผ้ากางเกงเก่าไม่ใช้แล้ว หรือผ้าที่ไม่ใช้แล้วมาประยุกต์เป็นพรมเช็ดเท้า อาจเสี่ยงอันตราย เหยียบแล้วลื่นล้มได้ เนื่องจากวัสดุผ้าไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มีส่วนกันลื่นด้านล่าง
3.พรมเช็ดเท้าราคาถูก อาจมีฝุ่นผงจากเศษผ้า และการตัดเย็บที่ไม่ดี ทำให้ด้ายหลุดลุ่ย และกลายเป็นสิ่งสกปรกภายในบ้านเพิ่มขึ้น แทนที่จะช่วยทำความสะอาด กลับนำพาสิ่งสกปรกเข้ามาในบ้านแทน
4.พรมเช็ดเท้าที่ไม่มีคุณภาพ จะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม และอาจมีสารหรือวัสดุอันตรายขนาดเล็กปลิวหลุดออกมา โดยที่คนในบ้านไม่ทันได้สังเกต เป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาวได้
ไม่ว่าจะเป็นบ้านที่พักอาศัย สำนักงาน หรือแม้กระทั่งโรงงานขนาดใหญ่ พรมเช็ดเท้าถือว่าเป็นส่วนประกอบที่นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เพราะประโยชน์หลักในการช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกจากเท้าของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงควรเลือกวัสดุที่นำมาผลิตให้มีคุณภาพ เพื่อการใช้งานที่คุ้มค่าและได้ประโยชน์สูงสุด