ประโยชน์ของมะม่วง ผลไม้สารพัดประโยชน์ แหล่งรวมพลังงานชั้นดี
ประโยชน์ของมะม่วง มีหลากหลายประการ ทางการแพทย์ได้นับว่ามะม่วงเป็นผลไม้พิเศษสามารถรับประทานทดแทนอาหารเสริม หรือ ยา ได้ในอาการเจ็บป่วยบางกรณี แถมยังมีรสชาติที่อร่อย มีกลิ่นหอม ทำให้หลาย ๆ คนมักจะนำมะม่วงเข้าไปอยู่ในเมนูอาหารทั้งของหวาน และ ของคาว มีกระบวนการแปรรูปมากมาย เช่น มะม่วงกวน, ข้าวเหนียวมะม่วง, มะม่วงดอง และอื่น ๆ อีกมากมาย
ทำความรู้จักกับมะม่วง ผลไม้พื้นถิ่นในไทย
มะม่วง เป็นผลไม้พื้นถิ่นในประเทศไทย สามารถหาซื้อมารับประทานได้ทั่วไป ซึ่งสายพันธุ์ของมะม่วงจะแบ่งออกเป็น 4 สายพันธุ์หลัก ๆ ที่นิยมทานกันมากที่สุด ได้แก่ มะม่วงเขียวเสวย, มะม่วงน้ำดอกไม้, มะม่วงอกร่อง และ มะม่วงแก้ว สามารถรับประทานได้ตั้งแต่วัยเด็กตลอดจนวัยชรา เป็นแหล่งรวมพลังงานและยังอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย โดยสารอาหารในมะม่วงก็มีมากกว่าผลไม้ชนิดอื่น ๆ ถึง 5 เท่า
การรับประทานมะม่วงทุกวันจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย สามารถรับประทานได้แม้ท้องว่าง การวิจัยพบว่า บุคคลที่รับประทานมะม่วง วันละ 100 กรัม มีร่างกายแข็งแรง ป่วยยาก และมีภูมิคุ้มกันที่ดีและแข็งแรง ณ ที่นี้หมายถึงมะม่วงทุกสายพันธุ์ ตลอดจนมะม่วงที่ผ่านการแปรรูป
ประโยชน์ของมะม่วง รับประทานเพื่อร่างกายที่แข็งแรง
มะม่วง 1 ผล อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ ประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต 22.84 กรัม, น้ำตาล 12.23 กรัม, เส้นใย 2.6 กรัม, ไขมัน 0.33 กรัม, โปรตีน 1.09 กรัม, วิตามินบี 10.031 มิลลิกรัม, วิตามินบี 20.073 มิลลิกรัม, วิตามินบี 30.665 มิลลิกรัม, วิตามินบี 50.334 มิลลิกรัม, วิตามินบี 60.4 มิลลิกรัม, วิตามินบี 9.20 ไมโครกรัม, โคลีน 9.8 มิลลิกรัม, วิตามินซี 8.7 มิลลิกรัม, ธาตุเหล็ก 0.26 มิลลิกรัม, ธาตุแมกนีเซียม 27 มิลลิกรัม, ธาตุแมงกานีส 0.27 มิลลิกรัม, ธาตุฟอสฟอรัส 22 มิลลิกรัม, โพแทสเซียม 358 มิลลิกรัม, ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม, ธาตุสังกะสี 0.15 มิลลิกรัม และ ธาตุฟลูออไรด์ 2.2 ไมโครกรัม มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้
1. ช่วยเสริมสร้างพลังงานให้กับร่างกาย
ประโยชน์ของมะม่วงเปรียบเสมือนเป็นแหล่งเสริมพลังงานให้กับร่างกาย เพราะในมะม่วงประกอบไปด้วยน้ำตาล 3 ชนิด ได้แก่ กลูโคส, ฟรุกโตส และ ซูโครส ซึ่งเป็นพลังงานชั้นดีของร่างกาย การรับประทานมะม่วง ต่อ 1 กรัม ให้พลังงานอยู่ที่ 122 กิโลแคลลอรี่ น้ำตาลทั้ง 3 ชนิด สามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ในส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้โดยที่ไม่ทิ้งไขมันสะสมไว้ในร่างกาย เพิ่มกระบวนการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย
2. ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
การรับประทานมะม่วง จะได้คุณค่าทางสารอาหารมากมาย นอกจากจะเป็นแหล่งพลังงานแล้วยังอุดมไปด้วยวิตามินมากมาย ได้แก่ วิตามินบี 1, วิตามิน บี 2, วิตามินบี 3, วิตามิน C, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส และ ซัลเฟต ซึ่งสารอาหารเหล่านี้จะเข้าไปช่วยให้ร่างกายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดอาการเหนื่อยง่าย เหนื่อยหอบ และยังเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับ แก้อาการหลับ ๆ ตื่น ๆ หรือ หลับยาก ให้นอนหลับสนิทได้ตลอดทั้ง เพิ่มแรง เพิ่มกำลัง ให้ผู้ป่วยที่ตกอยู่ในสภาวะขาดกำลัง
3. ช่วยบำรุงระบบประสาท และ สมอง
การรับประทานมะม่วงทุกวัน ในปริมาณที่พอดี จะช่วยเพิ่มความตื่นตัวให้กับสมอง ใช้ชีวิตได้เต็มที่มากขึ้น เพิ่มกำลังสมองในการคิดและทำสิ่งต่าง ๆ ตลอดทั้งวัน เพราะในมะม่วงจะมีโปรตีนเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วโปรตีนจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับร่างกายในการสร้างสารที่มีชื่อว่า สารเซโรโทนิน เป็นสารแห่งความสุข เมื่อสารเซโรโทนินหลั่งออกมาจากการรับประทานมะม่วงจะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดี คลายเครียด และ ช่วยเรื่องของการควบคุมอารมณ์ได้ดี ช่วยรักษาและบรรเทาอาการซึมเศร้าได้ ตลอดจนอาการหงุดหงิดในเพศหญิงอันเกิดจากรอบเดือน
4. ช่วยบำรุงโลหิต
การรับประทานมะม่วงจะเป็นผลดีต่อระบบโลหิต หรือ ระบบเลือดภายในร่างกายมนุษย์ ด้วยเส้นใย แร่ธาตุ และ วิตามินที่อุดมอยู่ในมะม่วง ป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรคโลหิตจาง ด้วยธาตุเหล็ก 0.2 มิลลิกรัม หรือ 2% ต่อมะม่วง 100 กรัม เมื่อร่างกายได้รับธาตุเหล็กจะเข้าไปกระตุ้นกระบวนการผลิตฮีโมโกลบินในเลือด รักษาภาวะโลหิตจาง และป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูง รวมถึง เส้นเลือดฝอยแตก ให้ร่างกายสามารถขนส่งออกซิเจนในเลือดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
5. ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร
มะม่วง จะประกอบไปด้วยเส้นใย กากใย และ ไฟเบอร์มากมาย ซึ่งสารอาหารเหล่านี้เป็นสารอาหารที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร ช่วยเร่งการทำงานของระบบเผาผลาญ ทำให้ขับถ่ายคล่องขึ้น สะดวกขึ้น และทำให้กระเพาะอาหารสามารถผลิตเยื่อออกมาเคลือบแผลในกระเพาะอาหาร สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหา กระเพาะอักเสบ, กระเพาะเป็นแผล, อาการเสียดท้อง, กรดในกระเพาะ หรืออาการอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร
การรับประทานมะม่วงจะช่วยลดการระคายเคืองของแผลในกระเพาะอาหารได้ นอกเหนือจากนี้ ยังเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก การรับประทานมะม่วง 100 กรัม จะช่วยให้แน่นท้อง, อิ่มเร็ว ลดความอยากอาหาร และ ลดอาการหิวในเวลากลางคืน ให้รสชาติหวานจากน้ำตาลโดยที่ไม่ก่อให้เกิดไขมันสะสมในร่างกาย
มะม่วง มีประโยชน์และยังมีสรรพคุณมากมาย นอกจากจะช่วยเรื่องระบบการทำงานของร่างกายแล้ว ยังช่วยเรื่องบำรุงร่างกายภายในและผิวพรรณภายนอก, อารมณ์, ความคิด ตลอดจน การบรรเทาอาการป่วยไข้ จนนับว่ามะม่วงเป็น 1 ในผลไม้สารพัดประโยชน์ สารอาหารในมะม่วงล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น นิยมรับประทานกันทั่วโลก กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่