ถ้วยชามคืออะไร มีประโยชน์ ความแตกต่าง และอันตรายอะไรบ้าง?
ถ้วยชาม(bowl) คือ การเรียกภาพรวมของภาชนะที่นิยมนำมาใช้ใส่อาหาร บ้างก็เรียกว่า “ถ้วยโถโอชาม” หรือ “ถ้วยชามรามไห” ซึ่งหมายถึงภาชนะในกลุ่มถ้วย และชาม ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกัน ความแตกต่างระหว่างถ้วยและชามคือความกว้างของปาก และก้นที่ลึกไม่เท่ากัน ซึ่งในสมัยก่อน การแบ่งแยกในกลุ่มคนจีน ภาชนะที่มีขนาดเล็กและใช้มือโอบห่อได้ จะเรียกว่าถ้วย ส่วนภาชนะที่มีขนาดฝ่ามือจะเรียกว่าชาม
อย่างไรก็ตามถ้วยชามล้วนเป็นภาชนะที่นำมาใช้ใส่อาหาร แม้จะมีรูปร่างที่แตกต่างกัน เมื่อนำคำมาซ้อนเข้าด้วยกัน ก็คือเครื่องถ้วยทั่วไป เรียกกันมาตั้งแต่ในสมัยโบราณ
เครื่องครัวเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่ในยุคโบราณ ตั้งแต่การนำเอาวัสดุธรรมชาติมาใช้ ค้นพบตั้งแต่เมื่อ 20,000 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการใช้เปลือกหอย, ใบไม้, ไม้ไผ่ และวัสดุอื่น ๆ ที่หาได้ภายในพื้นที่มาทำเป็นภาชนะที่มีความหลากหลาย ภายหลังจากนั้นมีการผลิตเครื่องปั้นดินเผา นำมาใช้งานทดแทน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่คงทนต่อสภาพแวดล้อม อากาศที่ร้อนหรือเย็น อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานยาวนาน รูปทรงเหมือนภาชนะถ้วยชามที่ใช้งานในยุคปัจจุบัน
ส่วนการใช้วัสดุไม้มาทำเป็นลัง ซึ่งเกิดจากการประกอบไม้ต่าง ๆ เข้าด้วยกันรวมถึงการสานอย่างประณีตเริ่มปรากฏให้เห็นในช่วง 5,000 ปีต่อมา และการใช้เซรามิก เริ่มค้นพบเมื่อ 3,500 ปีก่อนคริสตกาล วัฒนธรรมเหล่านี้ถูกส่งต่อออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และแพร่หลายไปยังทั่วทุกมุมโลก กลายเป็นของใช้ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งประโยชน์ในการใช้งาน และความสวยงามที่หลากหลายในปัจจุบัน
ประโยชน์ของถ้วยชาม
1.เป็นภาชนะที่สามารถนำไปใส่อาหารต่าง ๆ ทั้งคาวและหวานได้ ป้องกันไม่ให้อาหารสัมผัสโดนเชื้อโรคจากพื้นที่สกปรก หรือภาชนะอื่น ๆ ที่ไม่เหมาะสม
2.ช่วยให้ดูสวยงามสะอาดตา แบ่งแยกประเภทของอาหารชัดเจน เพราะแต่ละเมนูก็จะถูกจัดใส่ในคนละภาชนะ
3.ช่วยทำให้รับประทานได้ง่าย เนื่องจากมีการออกแบบให้เหมาะสมกับการตัก ไม่ว่าจะเป็นอาหารแห้ง หรืออาหารที่เป็นของเหลว ก็สามารถใช้ร่วมกับช้อนส้อมได้สะดวก
4.ถ้วยและชามมักถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นและรสชาติของอาหารถูกทำลาย เนื่องจากเป็นวัสดุที่ออกแบบมาเพื่อใช้ใส่อาหารโดยเฉพาะนั่นเอง
5.สามารถเลือกใช้เพื่อเพิ่มความสวยงามในการจัดโต๊ะอาหารได้ ด้วยการออกแบบทั้งสีสันและลวดลายในปัจจุบัน ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ทำให้เมนูอาหารดูน่ารับประทานขึ้นเป็นอีกเท่าตัว
6.ช่วยให้การจัดเสิร์ฟอาหารดูน่าตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้นด้วยการเลือกใช้ถ้วยและชามที่มีสีสันและดีไซน์ที่น่าชื่นชอบสามารถสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับการรับประทานอาหารเปลี่ยนไปจากเดิมที่อาจดูน่าเบื่อ
7.ถ้วยและชามออกแบบมาเพื่อให้สะดวกในการใช้งาน เช่น มีหูจับหรือช่องจับที่ใช้ในการถือเคลื่อนย้ายได้สะดวก
8.ในปัจจุบันถ้วยชามมีรูปทรงและขนาดที่เหมาะสมกับการเก็บอาหารต่าง ๆ เช่น ชามสำหรับน้ำพริกหรือถ้วยขนาดเล็กใส่ซอสสำหรับจิ้ม ไปจนถึงขนาดใหญ่ สามารถวางปลาได้เป็นตัว ๆ
9.ไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่ใช้ในการรับประทานอาหาร ยังสามารถใช้ในการเตรียมอาหาร ผสมส่วนประกอบของเมนู หรือเก็บอาหารที่เหลือจากมื้ออาหารก่อนหน้าไว้ในตู้เย็นได้
10.เป็นวัสดุที่มีความทนทาน โดยส่วนใหญ่ผลิตจากเซรามิก, แก้ว, อลูมิเนียม หรือพลาสติก ซึ่งสามารถล้างนำกลับมาใช้ซ้ำได้นาน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และยังช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมไปในตัว
11.ถ้วยชามบางชนิดมีฝาปิด ช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกหรือแมลงวันไปสัมผัสโดนอาหาร
12.ใช้เป็นของตกแต่งภายในบ้านและอาคารต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะถ้วยชามที่มีงานดีไซน์สวยแปลกตา สามารถนำไปรังสรรค์สร้างงานศิลปะที่สวยงาม กลายเป็นงานประติมากรรม หรืองานติดผนังได้
ความแตกต่างระหว่างถ้วย VS ชาม
ถ้วยและชามเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการรับประทานอาหารและเก็บอาหารได้ แม้ว่าความแตกต่างระหว่างทั้งสองอย่างจะไม่มีข้อกำหนดที่แน่นอน เนื่องจากมีการออกแบบและใช้งานที่หลากหลาย แต่มีความแตกต่างบางอย่างที่สามารถยกขึ้นมาเปรียบเทียบกันได้ ดังนี้
1.รูปทรงและขนาด
– ถ้วย: มักมีรูปทรงที่สูงและรูปทรงเล็กกว่า มักจะไม่มีหูยื่นที่ใช้ถือ เป็นรูปทรงเกลี้ยง ๆ ก้นลึก
– ชาม: มักมีรูปของปากกว้างกว่า มีก้นตื้นกว่า บางรุ่นจะมีหูยื่นออกมาเพื่อใช้จับเคลื่อนย้ายเพื่อความสะดวก
2.การใช้งาน
– ถ้วย: มักถูกใช้เพื่อรับประทานอาหารที่เป็นของเหลว รวมไปถึงเครื่องดื่มได้ เช่น โจ๊ก, ข้าวต้ม, น้ำซุป, กาแฟ, ชา เป็นต้น และใช้ใส่เครื่องปรุงแต่งอาหาร เช่น ซอส, น้ำจิ้ม, ส่วนผสมที่ใช้เตรียมทำอาหาร เป็นต้น
– ชาม: มักถูกใช้เพื่อรับประทานอาหารโดยเฉพาะ สามารถใส่ได้ทั้งอาหารเหลว กึ่งเหลว และอาหารแห้ง เช่น สุกี้ บะหมี่ ข้าวต้ม และอาหารที่มีน้ำ เป็นต้น
3.ลักษณะของขอบปาก
– ถ้วย: มักมีขอบบางหรือไม่มีขอบเลย เหมาะสำหรับการดื่มเครื่องดื่ม เช่น ถ้วยชา หรือหากมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก็จะนิยมใส่อาหารที่เป็นของเหลว ซึ่งขอบด้านบนจะป้องกันไม่ให้อาหารหกออกมาได้ง่าย
– ชาม: มักมีขอบปากกว้างมากกว่าส่วนก้น ช่วยให้ง่ายต่อการใส่อาหาร เช่น ชามก๋วยเตี๋ยว, ชามข้าว เป็นต้น
อันตรายที่ควรระวังในการใช้งานถ้วยชามมีอะไรบ้าง?
1.ถ้วยชามที่ผลิตจากพลาสติกที่ไม่มีคุณภาพ และไม่จัดอยู่ใน Food grade เสี่ยงที่จะทำให้เกิดอันตรายหากนำเข้าไมโครเวฟ หรือเตาอบ ทำให้มีสารเคมีอันตรายระเหยออกมา หรือเกิดการละลาย ไหม้ติดไฟ ลุกลามอย่างหนักจนกลายเป็นเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ได้
2.ถ้วยและชามที่ไม่ถูกล้างหรือทำความสะอาดอย่างเหมาะสมอาจสะสมเชื้อโรคและเชื้อราฝังลึก เมื่อนำมาใช้งานทำให้ร่างกายรับเอาสารอันตรายเหล่านี้เข้าไปจนเกิดอาการเจ็บป่วยตามมา
3.ถ้วยชามที่ผลิตจากแก้ว หากร่วงหล่น ง่ายต่อการแตก และเศษแก้วเหล่านั้นเป็นอันตราย เสี่ยงต่อการบาดผิวจนเลือดออก หรือกระเด็นปักเข้าตามจุดบอบบางของร่างกาย เช่น ดวงตา จนทำให้ตาบอดได้เลยทีเดียว
เพราะความหลากหลายในการออกแบบและการใช้งาน การเลือกใช้ถ้วยหรือชามนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของอาหารหรือเครื่องดื่มที่จะรับประทาน และบางครั้งอาจมีการใช้ทั้งสองอย่างเพื่อสร้างความสมดุลในการจัดเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มในโอกาสต่าง ๆ ได้โดยไม่มีถูกหรือผิดแต่อย่างใด