สารท เป็นประเพณีการทำบุญที่สำคัญของทั้งชาวไทยและชาวจีน แต่ถึงแม้จะมีชื่อเรียกที่คล้ายกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในหลายด้าน ทั้งในแง่ของความหมาย กำหนดเวลา และรูปแบบการปฏิบัติ
ความหมายและที่มา
- สารทไทย: สารทไทยตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดการจำพรรษาของพระสงฆ์ และเป็นช่วงเวลาที่ชาวไทยแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ โดยเชื่อว่าในช่วงนี้ประตูนรก-สวรรค์จะเปิด ทำให้ดวงวิญญาณของบรรพบุรุษสามารถมารับส่วนบุญที่ลูกหลานอุทิศให้ได้
- สารทจีน: สารทจีน หรือ เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน เป็นช่วงเวลาที่ดวงจันทร์เต็มดวงและสวยงามที่สุดในรอบปี ชาวจีนเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ความสุข และการอยู่พร้อมหน้าของครอบครัว
กำหนดเวลา
- สารทไทย: จัดขึ้นในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งมักจะอยู่ในช่วงเดือนกันยายนหรือตุลาคม
- สารทจีน: จัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ซึ่งมักจะอยู่ในช่วงเดือนกันยายนหรือตุลาคมเช่นกัน แต่บางปีอาจตรงกับเดือนสิงหาคมหรือพฤศจิกายน
รูปแบบการปฏิบัติ
- สารทไทย: ชาวไทยนิยมทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ฟังเทศน์ และจัดอาหารพิเศษ เช่น กระยาสารท ไปถวายพระสงฆ์และอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ
- สารทจีน: ชาวจีนนิยมไหว้พระจันทร์ในตอนกลางคืน จัดอาหารพิเศษ เช่น ขนมไหว้พระจันทร์ และผลไม้มงคล รวมถึงการชมการแสดงต่างๆ เช่น การเชิดสิงโต
สาระสำคัญร่วมกัน
แม้จะมีความแตกต่างกัน แต่สารทไทยและสารทจีนก็มีสาระสำคัญร่วมกัน คือ การแสดงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และการให้ความสำคัญกับครอบครัว
สรุป
สารทไทยและสารทจีนเป็นประเพณีที่สำคัญของทั้งสองวัฒนธรรม แม้จะมีความแตกต่างกันในรายละเอียด แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าและความเชื่อที่คล้ายคลึงกัน การทำความเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้เราเห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม และสามารถชื่นชมความงดงามของประเพณีทั้งสองได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น