
ฟิล์มกรองแสงคืออะไร มีประโยชน์ ประเภท และอันตรายอย่างไรบ้าง?
ฟิล์มกรองแสง(Window Film, Window Tint) คือ เป็นวัสดุที่ช่วยกรองแสง และสะท้อนแสงภายนอก มักจะเป็นแผ่นใสผลิตจากโพลีเอสเตอร์ มีทั้งชนิดที่ใช้งานได้กับภายนอกและภายในอาคาร ยานพาหนะ ไปจนถึงโครงสร้างอาคาร ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความร้อน ป้องกันรังสี UV ที่เป็นอันตราย ให้ความเป็นส่วนตัว เพิ่มความปลอดภัย และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
การถือกำเนิดขึ้นของวัสดุชนิดนี้ มีการพัฒนามาอย่างยาวนาน บุคคลสำคัญคนหนึ่งคือ Nicholas Kurtz นักประดิษฐ์ชาวอเมริกันผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการประดิษฐ์ฟิล์มกรองแสงในช่วงต้นทศวรรษ 1960 เคิร์ตซ์พัฒนากระบวนการสำหรับใช้ฟิล์มพลาสติกใสบาง ๆ กับพื้นผิวกระจก ซึ่งให้ประโยชน์ เช่น การลดความร้อนและลดแสงสะท้อน
อย่างไรก็ตามการติดฟิล์มกับบานหน้าต่างเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่หลากหลาย มีประวัติที่ยาวนานกว่านั้น พบว่า ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ฟิล์มตกแต่งหน้าต่างถูกผลิตเพื่อนำมาใช้งานติดตั้ง เพิ่มความเป็นส่วนตัว และความสวยงามให้กับบานหน้าต่าง ฟิล์มยุคแรกเริ่มทำจากกระจกสี หรือประดับลวดลายฝังไว้ในเนื้อกระจก เมื่อเวลาผ่านไป ความก้าวหน้าทางวัสดุและเทคโนโลยีได้นำไปสู่การพัฒนาฟิล์มกรองแสงสมัยใหม่ที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ในการตกแต่ง มีการผลิตให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยเฉพาะการป้องกันแสงแดดและรังสีความร้อนอย่างที่เรารู้จักในปัจจุบันนั่นเอง
ประโยชน์ของฟิล์มกรองแสง
1.ช่วยลดการแสงสะท้อนที่ผิวกระจกหรือผิวโลหะ ทำให้มองเห็นวัตถุได้ชัดเจนมากขึ้น
2.ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะในพื้นที่ ๆ ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดวัน เพราะการติดตั้งฟิล์มกรองแสงช่วยให้อุณภูมิภายในห้องหรืออาคารต่าง ๆ เย็นลง จึงเป็นตัวช่วยลดการใช้พลังงานไปในตัว
3.ช่วยสร้างความเป็นส่วน ด้วยการติดตั้งเอาไว้ไม่ให้ภายนอกมองเข้ามาได้ มีแค่พื้นที่ภายในที่สามารถมองออกไปได้เท่านั้น
4.ช่วยสะท้อนกลับรังสียูวีที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังไม่ให้เข้ามาภายในพื้นที่ ๆ ติดตั้งแผ่นฟิล์มเอาไว้
5.หากติดตั้งแผ่นฟิล์มกรองแสงกับกระจก จะเป็นตัวช่วยตรึงแผ่นกระจกให้ทนทานยิ่งขึ้น ป้องกันการแตกได้มากขึ้น
6.ช่วยสร้างความสวยงามให้กระจก ทำให้พื้นที่ดูมีความทันสมัย และดูเป็นส่วนตัว อย่างการติดตั้งเอาไว้กับคอนโดสูง ๆ ทำให้ภาพลักษณ์ของสิ่งก่อสร้างออกมาดูดีมากขึ้น
7.ช่วยลดแสงแดดจากภายนอกในเวลากลางวัน ทำให้ภายในอาคารไม่สว่างจนแสบตา สามารถอยู่อาศัยได้โดยมีความสว่างที่เพียงพอ โดยไม่ต้องเปิดไฟ
8.นำมาติดตั้งเป็นฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ซึ่งนิยมติดตั้งเพื่อใช้ในการขับรถตอนกลางวัน ช่วยทั้งลดความสว่างของแสงไม่ให้แสบตา และทำหน้าที่ลดความร้อนภายในรถยนต์ไปพร้อมกัน
9.ฟิล์มกรองแสงบางชนิดได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัย มักจะหนากว่าฟิล์มทั่วไป สามารถป้องกันหัวขโมยหรือผู้บุกรุกด้วยการทำให้เจาะหน้าต่างได้ยากขึ้น
10.ฟิล์มกรองแสงสามารถใช้เป็นของตกแต่ง เพิ่มลวดลาย หรือดีไซน์ให้กับหน้าต่าง หรือรถยนต์ได้ มักจะเป็นฟิล์มเอนกประสงค์ มักจะมีประโยชน์ในการ้องกันรังสียูวี และช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว

ประเภทของฟิล์มกรองแสง
ประเภทของฟิล์มกรองแสงในปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 4 ชนิดใหญ่ ๆ ด้วยกัน ดังนี้
1.ฟิล์มกรองแสงแบบธรรมดา
เป็นฟิล์มทั่วไป สำหรับใช้งานที่ไม่ซับซ้อน ไม่มีส่วนผสมของโลหะหรือสารคุณภาพพิเศษใด ๆ ทั้งสิ้น แต่จะช่วยเรื่องกรองแสงทั่วไป แต่ไม่ได้กรองรังสียูวี ซึ่งอายุการใช้งาน และคุณภาพ ขึ้นอยู่กับราคา และกระบวนการเคลือบด้วย
2.ฟิล์มกรองแสงแบบเคลือบโลหะ
การเคลือบแผ่นฟิล์มจะใช้ปรอทหรือโลหะ ซึ่งจะนำเอาแผ่นโลหะไปประกบเข้ากับแผ่นฟิล์ม ช่วยป้องกันรังสี UV ได้ดี และลดความร้อนมากขึ้น
3.ฟิล์มกรองแสงอนุภาคโลหะ
เป็นการใช้สารพิเศษในการเคลือบ มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันรังสี UV ทำหน้าที่ได้ดีกว่าแบบเคลือบโลหะ ทึบแสงน้อย จึงนิยมใช้กับรถยนต์ หรืออาคารที่ต้องการแสงสว่าง แต่ต้องการกรองรังสีที่เข้ามาให้น้อยลง
4.ฟิล์มกรองแสงเคลือบคาร์บอน
แผ่นฟิล์มถูกเคลือบด้วยคาร์บอน ซึ่งจะมีคุณสมบัติสะท้อนรังสี UV ได้สูงกว่า 40% และยังมีคุณสมบัติมืดเมื่อมองจากด้านนอก แต่มีความชัดหากมองออกไปจากด้านใน
อันตรายที่ควรระวังจากฟิล์มกรองแสง
1.การใช้งานฟิล์มกรองแสงบางประเภทอาจทำให้ความสว่างลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความไม่สะดวกในการมองเห็นหรือการใช้งานในสถานที่ที่มีแสงน้อย
2.การติดตั้งหรือการใช้งานฟิล์มกรองแสงที่ไม่ถูกต้องกับประเภทการใช้งาน อาจทำให้ไม่สามารถปกป้องได้ดีเท่าที่ควร ส่งผลให้ไม่มีการป้องกันรังสียูวี
3.ฟิล์มปลอมจะไม่สามารถป้องกันความร้อนและรังสีได้จริง อาจเสี่ยงทำให้เกิดความเสียหายต่อวัตถุ หรือสุขภาพตามมาในระยะยาว
4.ฟิล์มบางชนิดที่ไม่มีคุณภาพ เมื่อโดนความร้อนอาจมีสารพิษระเหยออกมา จนทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะในพื้นที่ ๆ ไม่มีอากาศถ่ายเท
การเลือกใช้ฟิล์มกรองแสงที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่ควรศึกษาข้อมูลให้ดี เพราะการผลิตแต่ละประเภทขึ้นมา ล้วนมีฟังก์ชั่นและความสามารถในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียน้อยเสียยาก ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และมีการรับประกันร่วมด้วย เพื่อให้เกิดความสบายใจในการใช้งาน