ประกันสังคมคืออะไร มีประโยชน์ ประเภท และมีข้อเสียอะไรบ้าง?
ประกันสังคม(Social Security) คือ ระบบาสวัสดิการที่มีเป้าหมายในการให้ความคุ้มครองแก่ประชาชนในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน โดยระบบประกันสังคมมักจะเกี่ยวข้องกับการคุ้มครองด้านสุขภาพ การเกิดโรค การเกิดอุบัติเหตุ การเกษียณอายุ การดูแลในช่วงที่มีการสูญเสียรายได้ และเหตุผลอื่น ๆ ที่อาจทำให้เจ็บป่วยหรือประสบความเสียหายทางเศรษฐกิจ
ระบบประกันสังคมมักจะเป็นการรวบรวมเงินจากผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วม ต้องจ่ายเงินออมเป็นรายเดือนหรือรายปีก็ได้ ขึ้นอยู่กับสัญญาที่เลือก และระบบจะมีการจ่ายเงินให้บุคคลที่มีความเสี่ยงหรือต้องการความคุ้มครองตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มความมมั่นคงในการใช้ชีวิตให้มากขึ้น
ระบบนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เริ่มมีการใช้ในหลายประเทศ ตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 อย่างในประเทศเยอรมนี ระบบประกันสังคมเริ่มก่อตั้งในปี ค.ศ. 1883 โดยเริ่มจากการประกันอุบัติเหตุและการได้รับการรักษาพยาบาล และต่อมาได้ขยายส่วนที่คุ้มครองการเกิดโรคและการเกษียณอายุ ส่วนในประเทศสหรัฐอเมริกา ระบบประกันสังคมในรูปแบบ Social Security เริ่มต้นดำเนินการในปี ค.ศ. 1935 ซึ่งเป็นระบบที่มุ่งเน้นให้การคุ้มครองแก่ผู้สูงอายุ ผู้ที่เสียชีวิต และผู้ป่วยที่ไม่สามารถทำงานได้ และมีการก่อตั้งในประเทศไทยตั้งแต่ปี ค.ศ.1932 ก่อตั้งเป็นกองทุนประกันสังคม ครอบคลุมสวัสดิการและการคุ้มครองต่าง ๆ มาจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งในปัจจุบันเป็นการออมเงินภาคบังคับสำหรับบริษัทต่าง ๆ เพื่อดูแลพนักงานให้มีหลักประกันชีวิตในภายภาคหน้า คุ้มครองทั้งสุขภาพ ชีวิต และยังเป็นเงินเก็บสำหรับใช้จ่ายในยามเกษียณได้อีกด้วย
ประโยชน์ของประกันสังคม
1.ให้การสนับสนุนด้านรายได้แก่บุคคลเมื่อมีอายุถึงเกณฑ์ที่ระบุเอาไว้ในสัญญา และกลุ่มคนที่ลาออกจากงาน ผลประโยชน์เหล่านี้ช่วยให้มีความมั่นคงทางการเงินในช่วงปีที่เกษียณ หรือช่วงที่ครบตามรอบการส่งเงินออม
2.เป็นเหมือนหลักประกันความเสี่ยงในชีวิต เหมือนกับการทำประกันชีวิตรูปแบบหนึ่งก็ว่าได้ เมื่อใดก็ตามที่เจ็บป่วย ทุพพลภาพ มีเหตุว่างงาน ชราภาพ ฯลฯ จะได้รับเงินดูแลจากกองทุนประกันสังคม
3.เข้ารับการรักษาพยาบาลโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง ซึ่งจะเป็นการเจ็บป่วยที่มีระบุเอาไว้ตามสิทธิ
4.สิทธิของประกันสงคมในประเทศไทย สามารถนำไปใช้ดูแลรักษาฟันได้ปีละ 1 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นฟันผุ, ขูดหินปูน หรืออุดฟัน โดยจะมีวงเงินให้ที่ 900 บาท/ปี
5.ได้รับเงินชดเฉยรายได้ เมื่อเป็นผู้ทุพพลภาพซึ่งไม่สามารถทำงานได้ โดยสามารถรับเงินทดแทนได้ตามระยะเวลาของสัญญาที่ระบุเอาไว้ในระบบ
6.กรณีผู้ประกันตนเสียชีวิต จะมีค่าทำศพให้ราว 50,000 บาท ซึ่งจะจ่ายให้กับผู้ทำหน้าที่จัดการงานศพ
7.จะได้รับเงินสงเคราะห์สำหรับลูกหลาน เมื่อผู้ประกันตนเสียชีวิต โดยจะคิดเป็น 2 เท่าของเงินเดือน (โดยผู้เอาประกันจะต้อส่งเงินสมทบอย่างน้อย 36-120 เดือนขึ้นไป)
8.ทายาทมีสิทธิ์ได้รับเงินสงเคราห์จากผู้ประกันตนที่เสียชีวิต ซึ่งส่งเงินสมทบไปแล้วตั้งแต่ 120 เดือนขึ้นไป จะมีการจ่ายเท่ากับเงินเดือน 6 เดือน
9.เป็นช่องทางสนับสนุนรายได้และการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย หรือไม่มีรายได้
10.เป็นตัวช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว ในกรณีที่ผู้ประกันตนเป็นเสาหลักของบ้านขาดรายได้ ไม่สามารถทำงานได้ หรือเสียชีวิต
11.ได้รับค่าใช้จ่ายเป็นเงินช่วยสำหรับค่าคลอดบุตรได้ สำหรับผู้ประกันตน โดยสามารถเบิกเงินค่าคลอดได้ราว 15,000 บาท ต่อการคลอดบุตร 1 ครั้ง
12.ช่วยฝึกวินัยด้านการออมเงิน ให้เป็นคนที่รู้จักการแบ่งรายรับ-รายจ่าย ให้เพียงพอในแต่ละเดือน และมีเงินเหลือสำหรับเก็บออมเพื่อดูแลตัวเองในยามแก่ชราต่อไป
ประเภทของประกันสังคม มีแบบไหนบ้าง?
ประเภทของประกันสังคมแบ่งออกเป็น 3 มาตราหลัก โดยมีสิทธิ์แตกต่างกันดังนี้
1.ประกันสังคมมาตรา 33
การทำประกันสังคมภาคบังคับตามกฎหมาย ของผู้ที่เป็นลูกจ้างในบริษัทต่าง ๆ ซึ่งจะต้องส่งเงินสมทบทุนทุกเดือน
2.ประกันสังคมมาตรา 39
การทำประกันสังคมภาคสมัครใจ ซึ่งจะต้องเคยเป็นลูกจ้างมาก่อน แต่ลาออกไปแล้ว หากต้องการส่งเงินสมทบต่อ จะต้องใช้มาตรานี้
3.ประกันสังคมมาตรา 40
ออกแบบมาเพื่อผู้ที่อยากทำประกันสังคม แต่อยู่นอกระบบการจ้างงาน หรือมีประวัติการจ้างงาน เช่น ฟรีแลนซ์ สามารถใช้มาตรานี้ในการเข้าร่วมได้ โดยจะมียอดสมทบให้เลือกตามสิทธิ์ที่ต้องการได้รับ
ข้อเสียของประกันสังคม
1.จำเป็นต้องมีการส่งเงินสมทบทุนไปยังกองทุนเป็นรายเดือนทุกเดือน จึงจะใช้สิทธิต่าง ๆ ได้
2.หากมีการขาดช่วงต่อ จะทำให้สิทธิประกันสังคมเป็นโมฆะ และไม่ได้รับเงินคืน หากจ่ายไม่ครบตามที่สัญญากำหนด
3.เนื่องจากมีผู้ใช้บริการทำประกันสังคมเป็นจำนวนมาก การใช้สิทธิ์เหล่านี้ในการรักษาพยาบาล จะมีคิวที่ต้องรอนาน ทำให้เสียเวลา และอาจได้รับการดูแลที่ไม่ได้ประสิทธิภาพมากพอ
4.หากมีการจ่ายเงินสมทบกองทุนน้อยกว่าระยะเวลาที่กำหนด จะไม่ได้รับสิทธิ์ในการคุ้มครองบางอย่าง ซึ่งอาจจะต้องจ่ายติดต่อกันตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป หรือ 6 เดือนขึ้นไป เท่านั้น
ระบบประกันสังคมจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ และมีรูปแบบการดำเนินงานและความคุ้มครองที่แตกต่างกันไป ในบางประเทศอาจมีการรวมเงินเป็นกองกลางจากประชาชนมาเก็บไว้เป็นกองทุนสังคม ในขณะที่ในบางประเทศอาจมีการจัดการระบบโดยหน่วยงานของรัฐ ทั้งนี้การเข้าร่วมและการรับผลประโยชน์ของระบบประกันสังคมอาจมีเงื่อนไขและข้อกำหนดที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศอีกด้วย