
ชุดนักเรียนคืออะไร มีประโยชน์ วิธีดูแลรักษาและข้อควรระวังในการใช้งานอย่างไรบ้าง?
ชุดนักเรียน(Student’s Uniform) คือ เครื่องแต่งกายชนิดหนึ่งที่จัดอยู่ในหมวดเครื่องแบบของนักเรียนและนักศึกษา ใช้สวมใส่ในสถาบันต่าง ๆ ซึ่งมีหลายประเทศที่กำหนดให้ผู้เขาเรียนในโรงเรียนจะต้องมีการแต่งกายตามข้อกำหนด
ในแต่ละยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ชุดนักเรียนมีการเปลี่ยนแปลงเอกลักษณ์ไปมาก มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นประเทศอังกฤษ, ญี่ปุ่น, เกาหลี และไทย เป็นต้น มีความแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่างนักเรียนชายและนักเรียนหญิง นอกจากนี้ลักษณะของชุดจะต่างกันระหว่างสถาบันศึกษาของภาครัฐกับภาคเอกชน แม้ว่าจะอยู่ในประเทศเดียวกันก็ตาม
ตามประวัติศาสตร์ที่พบ ไม่มีการระบุแน่ชัดว่าชุดนักเรียนถูกคิดค้นและมีการสวมใส่กันตั้งแต่เมื่อใด แต่เชื่อว่าประเทศอังกฤษเป็นชาติแรกที่เริ่มมีการตั้งกฎให้สวมใส่เครื่องแบบ โดยเป็นข้อบังคับของโรงเรียน Christ’s Hospital ลักษณะชุดเป็นเสื้อโค้ทยาวสีน้ำเงิน สวมถุงเท้ายาวสีเหลือง ส่วนในประเทศไทยเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เป้าหมายเพื่อต้องการพัฒนาชาติให้เป็นประเทศทัดเทียมชาวตะวันตก ส่วนในประเทศญี่ปุ่นเป็นการถูกปลูกฝั่งมาตั้งแต่มีการปฏิวัติเมจิ ซึ่งในปัจจุบันมีการถกเถียงเกี่ยวกับเสรีภาพในการแต่งกาย ความจำเป็นในการสวมใส่เครื่องแบบ ซึ่งมีทั้งฝั่งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่กระนั้นก็ยังเป็นชุดที่ต้องสวมใส่ เพราะยังถือเป็นข้อปฏิบัติซึ่งมีมายาวนาน และมีข้อดีหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องความเท่าเทียม
ประโยชน์ของชุดนักเรียน
1.เป็นเสมือนความภาคภูมิใจสำหรับเด็กที่ได้มีโอกาสสวมใส่เป็นเครื่องแต่งกายของโรงเรียนที่ตนตั้งใจสอบเข้าได้
2.ทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ด้วยการแต่งกายที่สวยงามตามที่สถาบันการศึกษากำหนด
3.ช่วยให้เกิดความเท่าเทียมในเรื่องชุดแต่งกาย เพราะทุกคนสวมใส่เสื้อผ้าแบบเดียวกัน ราคาเท่ากันทั้งหมด ช่วยลดแรงกดดันที่เกิดขึ้นเมื่อมีเด็กที่สวมใส่เสื้อผ้าราคาแพงมาเรียนในห้องเดียวกัน
4.เป็นเหมือนชุดที่ช่วยสร้างความปลอดภัยระดับหนึ่งในการเดินทางระหว่างไปกลับจากโรงเรียน เป็นจุดเด่นที่ผู้คนจะคอยให้ความปลอดภัย สังคมที่อยู่รอบตัวจะคอยช่วยเหลือหากเกิดเหตุที่เด็กโดนคุกคามได้มากกว่าคนที่แต่งกายด้วยชุดทั่วไป
5.พ่อแม่ที่ต้องเตรียมเสื้อผ้าให้ลูก ไม่ต้องเสียเวลากับการนั่งคิดว่าวันพรุ่งนี้ลูกจะสวมชุดอะไรไปโรงเรียน เพราะการสวมใส่เครื่องแบบเดิมเป็นประจำทุกวัน ทำให้ง่ายต่อการวางแผนชีวิต
6.ชุดนักเรียนเป็นเหมือนยูนิฟอร์มที่เด็กจะต้องตื่นเช้าขึ้นมาเพื่อสวมใส่ ทำให้เกิดความขยัน หลังจากสวมชุดแล้วจะรู้สึกได้ถึงความพยายามตั้งใจเรียน อยู่ในกฎระเบียบมากขึ้น
7.ลดการขาดเรียนของเด็กได้ เพราะการสวมชุดนักเรียนไปโรงเรียน พวกเขาต้องอยู่ภายในรั้วโรงเรียนจนกว่าโรงเรียนเลิก การออกมานอกสถานที่ผิดเวลา จะกลายเป็นจุดสังเกตได้ง่าย
8.เป็นกรสร้างวินัยให้เด็กรู้จักอยู่ในกฎระเบียบที่กำหนด ด้วยการแต่งกายที่เป็นระเบียบ ฝึกการปรับปรุงพฤติกรรม แก้นิสัยของเด็กบางกลุ่มที่มีความก้าวร้าวให้ดีขึ้นได้
9.ค่าใช้จ่ายของชุดนักเรียน เป็นการซื้อชุดแบบเดียวกันจำนวนหลาย ๆ ตัว ช่วยลดค่าใช้จ่ายของครอบครัวเด็ก พ่อแม่ไม่ต้องซื้อชุดที่ดูสวยหรูให้ลูกไปโรงเรียน
10.ทำให้ผู้ที่สวมใส่เกิดความนับถือตนเองมากขึ้น เพราะเป็นเครื่องแบบที่มีเกียรติ โดยเฉพาะการสวมใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนที่มีชื่อเสียงในด้านความเก่งของเด็ก
11.ช่วยทำให้สภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนดูปลอดภัยขึ้น เพราะจะช่วยแยกคนแปลกหน้าที่เข้ามาภายในโรงเรียนได้ง่าย
12.เด็กไม่ต้องเสียเวลากับการคิดเลือกชุดในแต่ละวัน จึงสามารถเอาเวลาที่เหลือไปทุ่มเทให้กับการอ่านหนังสือหรือการเรียนรู้ให้มากขึ้น
ข้อเสียของชุดนักเรียน
1.จำกัดความเป็นตัวของตัวเอง: ชุดนักเรียนทำให้เด็กทุกคนต้องแต่งกายเหมือนกันหมด ซึ่งอาจทำให้เด็กบางคนรู้สึกว่าถูกจำกัดความเป็นตัวของตัวเอง ไม่สามารถแสดงออกถึงสไตล์การแต่งตัวที่ชอบได้
2.ไม่สะดวกสบาย: ชุดนักเรียนบางแบบอาจมีความอึดอัด ไม่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย ทำให้เด็กบางคนรู้สึกไม่สบายตัวเมื่อต้องสวมใส่เป็นเวลานาน
3.สิ้นเปลือง: ชุดนักเรียนมีราคาแพง และเด็กๆ ต้องมีหลายชุดเพื่อสับเปลี่ยนใส่ ทำให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ปกครอง
4.สร้างความเหลื่อมล้ำ: เด็กที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจนอาจไม่สามารถซื้อชุดนักเรียนที่มีคุณภาพดีได้ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างเด็กที่มีฐานะแตกต่างกัน
5.ไม่เหมาะกับกิจกรรมบางอย่าง: ชุดนักเรียนบางแบบอาจไม่เหมาะกับกิจกรรมบางอย่าง เช่น การเล่นกีฬา หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ทำให้เด็กต้องเปลี่ยนชุดบ่อยๆ
6.เป็นประเด็นถกเถียง: การบังคับให้เด็กใส่ชุดนักเรียนเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน บางคนมองว่าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของเด็ก ในขณะที่บางคนมองว่าเป็นการสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยและลดความเหลื่อมล้ำในโรงเรียน

การดูแลรักษาและข้อควรระวังในการใช้งานชุดนักเรียน
1.หลังจากสวมใส่มาตลอดทั้งวัน ควรนำไปผึ่งตากให้ชุดนักเรียนแห้ง ป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราคาจากสิ่งสกปรกและคราบเหงื่อระหว่างวัน
2.พยายามดูแลเสื้อผ้าไม่ให้เลอะเทอะ หรือสัมผัสโดนของมีคมจนเกิดฉีกขาด
3.เนื่องจากเสื้อของชุดนักเรียนส่วนใหญ่มีสีขาว ดังนั้นจะต้องแยกซักจากผ้าสี และควรซักด้วยมือ เพื่อถนอมเนื้อผ้าไม่ให้ขาดรุ่ยได้ง่าย
4.เมื่อซักเสร็จแล้วจะต้องตากแดดให้แห้งก่อนเก็บเข้ามา และแขวนเอาไว้กับไม้แขวน ไม่ใช่วิธีพับเก็บหรือยัดเอาไว้ เพราะจะทำให้ชุดยับและรีดให้เรียบได้ยาก
5.เมื่อใดก็ตามที่ชุดเกิดชำรุดเสียหายขึ้นมา ควรทำการซ่อมแซมโดยด่วนเพื่อป้องกันไม่ให้รอยขาดเพิ่มพื้นที่ยาวขึ้น
6.ควรแช่ผ้าในน้ำอุณหภูมิปกติก่อนซัก เพื่อช่วยให้การซักทำได้ง่าย คราบสกปรกหลุดอย่างรวดเร็ว ทำให้เสื้อผ้าดูใหม่อยู่เสมอ
7.หากเป็นไปได้ หลังใช้แล้วให้ทำการซักทันที เพื่อป้องกันคราบสกปรกฝังแน่น รวมถึงป้องกันเชื้อราที่อาจเกิดขึ้นจนเป็นรอยทำความสะอาดไม่ออก
จะเห็นได้ว่าชุดนักเรียนเป็นเครื่องแต่งกายที่มีข้อดีอยู่มาก แม้จะผ่านไปนานแค่ไหนชุดเหล่านี้ยังช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในการสวมใส่ เป็นเขตปลอดภัยของเด็ก และช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครอง ซึ่งไม่ต้องซื้อเสื้อใหม่ชุดใหม่ ๆ ให้ลูกอยู่เสมอ แม้จะมีข้อติติงในเรื่องความไม่จำเป็นของการใส่เครื่องแบบไปโรงเรียน แต่กระนั้นในยุคนี้ผู้คนส่วนมากก็ยังคงยอมรับว่าเครื่องแบบเหล่านี้คือความภาคภูมิใจของตนเองและพ่อแม่