ค่าไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นปัญหาที่หลายคนกำลังเผชิญ แต่เราสามารถลดค่าใช้จ่ายและช่วยโลกได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าในบ้านเล็กน้อย มาดูวิธีง่ายๆ ที่ทำได้ทันทีกันค่ะ
1. ปิดไฟเมื่อไม่ใช้งาน:
- ปิดไฟทุกครั้งที่ออกจากห้อง: แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ควรปิดไฟ เพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น
- ใช้แสงธรรมชาติให้มากที่สุด: ในช่วงกลางวัน เปิดม่านและหน้าต่างให้แสงแดดส่องเข้ามาในบ้าน เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าจากหลอดไฟ
2. ถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน:
- เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน: ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน เช่น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เครื่องชาร์จโทรศัพท์ เพราะแม้จะปิดเครื่องแล้ว แต่ถ้ายังเสียบปลั๊กอยู่ก็ยังคงใช้ไฟฟ้าอยู่
- รางปลั๊กไฟ: ใช้รางปลั๊กไฟที่มีสวิตช์เปิด-ปิด เพื่อความสะดวกในการตัดกระแสไฟฟ้าของอุปกรณ์หลายๆ ชิ้นพร้อมกัน
3. เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน:
- ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5: เลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป
- หลอดไฟ LED: เปลี่ยนหลอดไฟแบบเดิมเป็นหลอดไฟ LED ซึ่งใช้พลังงานน้อยกว่าและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า
4. ใช้เครื่องปรับอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ:
- ตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม: ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศไว้ที่ 25-26 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมและช่วยประหยัดพลังงานได้มาก
- ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ: ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศของเครื่องปรับอากาศเป็นประจำ เพื่อให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน
5. ลดการใช้น้ำร้อน:
- อาบน้ำเย็น: อาบน้ำเย็นแทนน้ำอุ่นในวันที่อากาศร้อน จะช่วยประหยัดพลังงานที่ใช้ในการต้มน้ำ
- ซักผ้าด้วยน้ำเย็น: ซักผ้าด้วยน้ำเย็นแทนน้ำอุ่น จะช่วยประหยัดพลังงานที่ใช้ในการทำน้ำร้อน
6. วิธีอื่นๆ:
- ใช้พัดลมแทนเครื่องปรับอากาศ: ในวันที่อากาศไม่ร้อนมาก สามารถใช้พัดลมแทนเครื่องปรับอากาศได้
- ตากผ้าแทนการใช้เครื่องอบผ้า: ตากผ้าในที่ที่มีอากาศถ่ายเทแทนการใช้เครื่องอบผ้า จะช่วยประหยัดพลังงานได้มาก
- รีดผ้าครั้งละมากๆ: การรีดผ้าครั้งละมากๆ จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าการรีดทีละตัว
การประหยัดไฟฟ้าไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าใช้จ่าย แต่ยังช่วยลดการใช้พลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน แล้วคุณจะเห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจอย่างแน่นอน