ทองคำคืออะไร มีประโยชน์ ลักษณะเด่นและข้อควรระวังอะไรบ้าง?
ทองคำ(Gold) คือ แร่ธาตุชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในลำดับที่ 79 ของตารางธาตุ สัญลักษณ์คือ Au มีลักษณะเป็นโลหะสีเหลืองแข็ง มาจากธาตุอิสระในธรรมชาติ ทนทานเพราะไม่ไวต่อปฏิกิริยา ทำให้ไม่เกิดสนิม การกำเนิดของทองคำได้ทั้งจากการรวมกับหินอัคคี และการเกิดขึ้นบนลานแร่มีธารน้ำผ่าน ผสมปนกับแร่หนักชนิดอื่นที่มีความทนต่อการถูกกัดกร่อน ทองบริสุทธิ์ไม่มีเจือปน จะถูกเรียกว่า “ทองเนื้อเก้า” คือมีความบริสุทธิ์ที่ 100% เต็ม เนื้อทองสีเหลืองอมแดง สุกปลั่ง สวยงามตามลักษณะทางธรรมชาติ
ในอดีตทองคำมีชื่อเรียกในภาษาโบราณว่าจีโอลู (Geolu) ส่วนปัจจุบันเรียกว่า Gold เป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งมาตั้งแต่สมัยโบราณ ยาวนานกว่า 6,000 ปี พบจากเครื่องใช้เก่าแก่ที่ผลิตจากทองคำ ทั้งนี้พบหลักฐานที่เก่าแก่เกี่ยวข้องระหว่างมนุษย์และทองคำซึ่งค้นพบในลักษณะเกล็ดทอง ภายในถ้ำมนุษย์ยุคหินเก่าเมื่อราว 40,000 ปีก่อน ทว่าก็ไม่ใช่ช่วงที่มนุษย์ให้คุณค่ากับมันมากเท่าใดนัก จนเริ่มเข้าสู่อารยธรรมเมโสโปเตเมียราว 4,600 ปี มีการใช้ทองคำทำเครื่องประดับ และของตกแต่งบ้าน เนื่องจากมีความสวยโดดเด่น ชวนสะดุดตา นับตั้งแต่นั้นมา ทองคำก็เริ่มกลายเป็นของมีค่า ใช้เป็นเหรียญเงินและสื่อกลางสำหรับการแลกเปลี่ยนสิ่งของ

ประโยชน์ของทองคำ
1.เป็นเครื่องประดับแต่งกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสวยงาม ใช้ได้ทั้งในชายและหญิง ไม่ว่าจะเป็น สร้อยคอ, สร้อยข้อมือ, กำไลแขน, แหวน, ต่างหู เป็นต้น
2.ใช้เป็นวัสดุสำหรับการทำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นวงจรด้านใน ช่วยในการนำไฟฟ้าได้ดี และไม่ก่อให้เกิดสนิม อีกทั้งยังทนทานต่อการผุกร่อน
3.ใช้เป็นวัสดุสำหรับการรักษาฟัน เพราะสัมผัสน้ำได้ ไม่ก่อให้เกิดสนิม และไม่เป็นพิษต่อร่างกาย ใช้งานได้คงทนในระยะยาว
4.ด้วยความสวยงามของทองคำ จึงนิยมนำมาใช้ทำเครื่องประดับ เนื่องจากมีความสวยงามแวววาว ใช้ขึ้นรูปทำเป็นจี้สำหรับสร้อยคอ, แหวน, ต่างหู และอื่น ๆ อีกมากมาย
5.ความสำคัญของทองคำที่ได้รับว่าเป็นสิ่งที่มีมูลค่าในด้านการเงิน สามารถใช้บ่งบอกเศรษฐกิจประเทศ และแลกเปลี่ยนเป็นเงินตราได้
6.ทองคำถือว่าเป็นสินทรัพย์โลหะที่สามารถนำไปใช้เก็งกำไรได้ มีความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก สามารถใช้เป็นแหล่งกระจายการลงทุนในกลุ่มนักลงทุนมายังทองคำได้
7.ใช้เป็นเงินทุนสำรองของประเทศ เนื่องจากมีมูลค่าในตัวเอง ประเทศไหนที่มีทองคำมาก จะได้เปรียบในการลงทุนระหว่างประเทศมากกว่า
8.ใช้เป็นส่วนประกอบหลักในการทำยานอวกาศและชุดอวกาศ ด้วยคุณสมบัติที่สามารถสะท้อนรังสีอินฟราเรดได้ ช่วยป้องกันรังสีจากดวงอาทิตย์ที่แผ่ออกมา
9.ทองคำที่เป็นเครื่องประดับ สามารถใช้เป็นของขวัญมอบให้คนรักหรือผู้หลักผู้ใหญ่ได้ ซึ่งถือว่าเป็นของขวัญที่มีมูลค่าในตัวที่ทุกคนต่างรู้ดี
10.ใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตฟันปลอม เนื่องจากมีความคงทนต่อการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม
11.ในทางการแพทย์มีการนำเอาทองคำไปใช้ในการรักษาอาการป่วยที่เรียกว่า “โรคเปลือกตาปิดไม่สนิท” ด้วยการฝังเข้าไปในเปลือกตา ช่วยถ่วงน้ำหนักให้หนังตาปิดได้สนิทขึ้น
12.ซื้อสะสมเอาไว้ใช้เป็นทุนสำรองในยามฉุกเฉินได้ หรือเพื่อขายเอากำไรในช่วงที่มูลค่าทองคำแพงขึ้น

ลักษณะเด่นของทองคำ
1.มีความสวยตามธรรมชาติ ด้วยลักษณะที่มันวาว โดยหลักจะเป็นสีทองอมส้ม และสามารถเปลี่ยนโทนสีด้วยการนำไปผสมกับโลหะอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความสวยงามแปลกใหม่ขึ้น
2.มีความทนทานสูง ไม่ผุกร่อนง่าย และที่สำคัญโดนอากาศร้อนและความชื้นได้โดยไม่ขึ้นสนิม และยังให้ความสวยงามดังเดิมแม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม
3.เป็นแร่ที่หาได้ยาก และขั้นตอนการให้ได้ทองคำสัก 1 ออนซ์ขึ้นมานั้นต้องขุดเหมืองเพื่อหาก้อนแร่ลงไปหลายสิบเมตร ทำให้เป็นแร่ที่มีราคาแพง เนื่องจากมีต้นทุนสูง
4.เป็นแร่ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ด้วยการหลอมเหลวให้มีความอ่อนนิ่ม จากนั้นนำไปขึ้นรูปใหม่อีกครั้งได้ด้วยการทำให้บริสุทธิ์ก่อน
5.เก็บเอาไว้ได้นาน แทบไม่เกิดความเสียหายใด ๆ ยังคงสภาพทองคำในรูปแบบเดิมได้ และยังมีมูลค่าเสมอไม่เปลี่ยนแปลง

ข้อควรระวังจากทองคำ
1.หากอยู่ในรูปแบบที่มีมูลค่า ควรเก็บไว้ในที่ ๆ ปลอดภัย ห่างไกลจากมิจฉาชีพ เพราะอาจโดนขโมย หรือโดนกระชาก
2.การนำเอาทองคำที่ไม่ใช่ทองคำบริสุทธิ์ไปผสมในอาหาร หรือใช้ตกแต่ง เมื่อรับประทานเข้าไป จะเป็นพิษสะสมในร่างกาย ส่งผลเจ็บป่วยตามมา
3.ทองคำรูปพรรณเส้นเล็ก หรือมีลักษณะเป็นจี้ต้องระวังเก็บให้ห่างจากมือเด็กเล็ก เพราะเสี่ยงที่เด็กจะหยิบกลืนลงคอ ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย หรือติดคอได้
4.บางคนที่สวมใส่ทองคำ อาจเกิดอาการแพ้รุนแรง เป็นผื่นคัน จนเกิดรอยแดงแสบร้อน จึงต้องระมัดระวังในการสวมใส่เป็นพิเศษ
ทองคำเป็นแร่ที่ได้รับความนิยมในหลาย ๆ ด้าน และถือว่ามีมูลค่าสูง มีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากเป็นที่ยอมรับของผู้คนทั้งโลก ทั้งในแง่การใช้งาน และเป็นเสมือนตัวสะท้อนความมั่นคงของบุคคลและประเทศได้อีกด้วย การมีทองคำอยู่ในมือ ไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่ง หรือทองรูปพรรณ ก็ล้วนนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินตรา ตามราคาตลาดในช่วงเวลานั้น ๆ โดยไม่ทำให้มูลค่าหายไป แม้ว่าจะเก็บเอาไว้นานแล้วก็ตาม