
ไหมขัดฟันคืออะไร มีประโยชน์ วิธีใช้และอันตรายอะไรบ้าง?
ไหมขัดฟัน(Dental Floss) คือ อุปกรณ์ทำความสะอาดช่องปากชนิดหนึ่ง ที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อต้องการทำความสะอาดตามซอกฟันให้มีประสิทธิภาพนอกเหนือจากแปรงสีฟันที่ใช้กันเป็นประจำอยู่แล้ว ช่วยกำจัดเศษอาหารในส่วนที่แปรงไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยเฉพาะจุดที่เป็นซอกลึกของฟันกราม
ต้นกำเนิดของไหมขัดฟัน เชื่อกันว่าเกิดขึ้นใช่ช่วงปี ค.ศ. 1815 โดย ดร.ปาร์มลี(Dr. Levi Spear Parmly) ซึ่งเป็นทันตแพทย์ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา แนะนำให้ผู้คนใช้ไหมขัดฟันที่เคลือบด้วยขี้ผึ้งสำหรับขัดซอกฟัน วัสดุเป็นไหมไนลอนเหมือนเส้นดายทั่วไปในท้องตลาด อีก ดร.ปาร์มลี ทั้งยังมีการออกหนังสือ “A Practical Guide to the Management of Teeth” เพื่อให้ผู้คนใส่ใจช่องปากมากขึ้น เน้นแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง และใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง
การเดินทางของไหมขัดฟันได้รับความนิยมมากขึ้น จนในปี ค.ศ.1882 โดยบริษัท Codman และ Shutleff มีการผลิตไหมขัดฟันจำนวนมากขึ้นมา โดยมีโรงงานอย่างจริงจังในรูปแบบอุตสาหกรรมเลยก็ว่าได้ และกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการจดสิทธิบัตรขึ้นโดยบริษัท Johnson & Johnson ในปี ค.ศ.1898 ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบเคลือบและไม่เคลือบผึ้ง แถมยังมีการใส่กลิ่นหอมสดชื่นเคลือบลงไป ผลิตจากวัสดุที่หลากหลายอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
ประโยชน์ของไหมขัดฟัน
1.ช่วยกำจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟันออกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้แปรงฟันเพียงอย่างเดียว
2.ช่วยลดปัญหากลิ่นปากที่เกิดขึ้นจากเศษอาหารที่แปรงฟันกำจัดออกไม่หมด สามารถใช้ไหมขัดฟันกำจัดออกภายหลังรับประทานอาหารเสร็จได้ โดยไม่เป็นอันตราย แม้จะใช้บ่อย
3.ช่วยทำหน้าที่เป็นแปรงสีฟันสำหรับฟันซี่ท้าย ๆ ด้านใน กรณีที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง หรือฟันที่ทับซ้อนเก ไหมขัดฟันจะซอกซอนเข้าไปทำความสะอาดได้ดี
4.ไหมขัดฟันช่วยทำให้สุขภาพเหงือกและฟันแข็งแรงได้นานขึ้น ทำให้เคี้ยวอาหารได้ละเอียด ลดการเกิดภาวะท้องอืด และอาหารไม่ย่อยได้อีกด้วย
4.เนื่องจากไหมขัดฟันมีความเหนียว จึงสามารถนำไปเอาทำเป็นราวตากผ้า ด้วยการทบเส้นไหมให้มากกว่า 2 ชั้น ขึ้นไป ใช้ตากผ้าที่มีน้ำหนักไม่มากจนเกินไปได้
5.ใช้เป็นเชือกสำหรับผูกนำทางต้นไม้เลื้อยภายในสวน เนื่องจากมีเส้นเล็ก บาง แต่เหนียวทนทาน ทำให้ไม่เป็นที่สะดุดตา ทำให้การตกแต่งสวนดูสวยงามมากขึ้น
6.ลดการเกิดคราบหินปูนที่อยู่ตามซอกฟัน ช่วยป้องกันฟันผุและโรคเหงือกอักเสบ
7.นำมาทำเป็นเชือกขั้นหน้าหนังสือได้ ด้วยการใช้ไหมขัดฟันแบบไม่เคลือบขี้ผึ้ง เพื่อความสะดวกในการเปิดอ่านหนังสือจากหน้าที่ค้างไว้
8.ใช้เป็นเชือกผูกผมในกรณีฉุกเฉิน ไม่มีหนังยาง สามารถใช้ไหมขัดฟันมาแก้ขัดได้ เพราะมีความเหนียว ยืดหยุ่น และไม่ลื่นหลุดง่าย
9.ใช้แทนด้ายสำหรับเย็บหรือเป็นด้ายสำหรับตัดไข่ต้มได้ มีความทนทานมากกว่าด้ายทั่วไป แถมยังสะอาด ไร้สารเคมีอันตราย และสีตกค้างด้วย
10.ใช้ทำเป็นเชือกแขวนของเอนกประสงค์ นำมาแขวนกรอบรูป นาฬิกา หรือชั้นแขวนผนัง สามารถรับน้ำหนักได้ดี ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อเชือกเพิ่มอีกด้วย
11.ใช้มัดสิ่งของยามฉุกเฉินแทนเชือกได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าไหมจะขาด แถมยังมีความทนทาน มัดได้แน่น

วิธีใช้งานไหมขัดฟันให้ถูกหลัก
1.ขั้นตอนการใช้ไหมขัดฟัน จะต้องดึงไหมออกมาประมาณ 15 นิ้ว ให้สามารถพันไหมกับนิ้วกลางได้ โดยเหลือไหมเอาไว้ 1-2 นิ้วเพื่อใช้ขัดฟัน
2.ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้จับไหมเอาไว้ให้แน่น วางแนวขนามไปกับซอกฟัน ค่อย ๆ กดไหมจนเข้าไปในซอกได้อย่างระมัดระวัง จากนั้นขัดเบา ๆ ขึ้นและลงที่ซอกแต่ละด้าน รวมถึงร่องเหงือกด้วย ทำแบบนี้จนครบทุกซี่ โดยเฉพาะส่วนของฟันกรามด้านใน
3.ส่วนของฐานฟันควรขัดอย่างเบามือ เพราะอาจกระทบเหงือกจนเลือดออกได้ แต่หากเกิดขึ้น ไม่ต้องกังวล เพราะไม่เป็นอันตราย แผลจะหายได้เอง นอกจากเกิดการบาดกับเนื้อเยื่อบ่อย ๆ อาจส่งผลทำให้เกิดการอักเสบตามมาได้
4.เมื่อขัดเสร็จในแต่ละซี่ การดึงไหมออกจากฟัน ให้ดันไหมขึ้น เลื่อนไปด้านหน้าและหลัง จนไหมหลุดออกมา
5.ไม่ควรนำไหมขัดฟันที่ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำ เพราะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและเศษอาหาร ควรทิ้งและบ้วนปากทำความสะอาดเป็นขั้นตอนสุดท้าย
อันตรายในการใช้ไหมขัดฟัน?
1.ถ้าเป็นมือใหม่ การขัดฟันด้วยไหมมีโอกาสบาดเหงือก บาดเจ็บได้สูง ยิ่งถ้าเลือกใช้ไหมขัดฟันราคาถูก ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงตามมาได้
2.การขัดไหมลึกลงไปที่เหงือกจนเกินไป นานวันเข้าเสี่ยงที่จะทำให้เหงือกร่น เกิดอาการเสียวฟันตามมา
3.หากวางเส้นไหมขัดฟันเอาไว้ใกล้มือเด็ก อาจนำไปหยิบเล่น จนทำให้บาดมือ หรือการนำเข้าปาก อาจทำให้ติดคอและสำลักตามมาได้
4.คนที่ใช้ไหมขัดฟันซ้ำเพราะเสียดาย จะส่งผลให้ฟันไม่สะอาด ซอกฟันกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค เสี่ยงเกิดฟันผุ และเกิดโรคเหงือกอักเสบตามมาได้ หากทำพฤติกรรมเช่นนี้ในระยะยาว
การใช้ไหมขัดฟันช่วยทุกครั้งหลังแปรงฟันหรือหลังรับประทานอาหารเสร็จ จะช่วยลดคราบหินปูนและปัญหาฟันผุลงไปได้ และมีผลดีมากมายในการดูแลสุขภาพช่องปาก ดังนั้นนี่จึงเป็นอุปกรณ์จำเป็นที่ควรใช้ให้กลายเป็นนิสัย เพื่อรักษาฟันและเหงือกให้แข็งแรง ลดการเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา