ประโยชน์ของครีมกันแดด หรือ Sunscreen กับการเลือกใช้ให้เหมาะกับผิว
ครีมกันแดด (Sunscreen) คือ ผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้สำหรับทาผิวหนังภายนอก มีส่วนผสมหลักคือสารกันแดด (Sunscreen agent) ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV(Ultraviolet) ซึ่งเป็นรังสีที่มองไม่เห็นที่มาพร้อมกับแสงแดด แม้จะอยู่ในช่วงที่แสงแดดอ่อน แต่รังสีเหล่านี้ก็ยังแผ่กระจายอยู่ในพื้นที่โล่ง และเล็ดลอดเข้ามาในที่ร่มได้ การทาครีมกันแดด จึงเป็นเหมือนเกราะป้องกันผิว มีหลายชนิดให้เลือกตามไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิต โดยค่าที่ได้รับความสนใจในกลุ่มผู้บริโภค คือค่า Sun protection factor (SPF), waterproof และ water resistance เป็นหลัก ส่วนค่าอื่นถือว่ารองลงมา ทว่าก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
ประโยชน์ของครีมกันแดด
1.ใช้สำหรับทาผิว ช่วยปกป้องรังสียูวีอันตรายที่มาจากแสงแดด ไม่ว่าจะเป็น UVB หรือ UVA ที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
2.ช่วยป้องกันการคล้ำเสียของผิวหนัง ความหมองคล้ำ และลดการสูญเสียน้ำจากชั้นผิว ทำให้ผิวไม่แห้งแตกและเป็นขุย
3.ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งผิวหนัง ซึ่งมีสาเหตุมาจากภูมิต้านทานของเซลล์ผิวที่ลดลงเนื่องจากการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานานติดต่อกัน
4.ช่วยลดการเกิดฝ้าและกระบนผิวหน้า เนื่องจากครีมกันแดดจะทำหน้าที่เป็นเหมือนเกราะป้องกัน ช่วยป้องกันแสง UV ไม่ให้สัมผัสผิวโดยตรง
5.การทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกกลางแจ้ง จะช่วยดูแลสุขภาพผิว ไม่ให้เสื่อมสภาพก่อนวัย
6.ลดปัญหาสุขภาพผิวสำหรับคนที่มีเม็ดสีเมลานินบนผิวหนังน้อย หรือกลุ่มคนขาวในโซนยุโรป เพราะสภาพผิวดูดซับรังสีได้ง่าย เสี่ยงภูมิคุ้มกันเซลล์ผิวถูกทำลาย
7.ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยที่จะมาก่อนวัยอันควร โดยเฉพาะบริเวณผิวหน้า ผิวรอบดวงตา หน้าผาก ซึ่งมีความบางเป็นพิเศษ
8.ลดโอกาสการเกิดจุดด่างดำบนผิวหนัง โดยเฉพาะที่ผิวหน้า
9.ช่วยป้องกันปัญหาผิวไหม้แดด เมื่อต้องทำงานกลางแจ้งแดดจัดเป็นเวลานาน
10.ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของวิตามินบำรุงผิว จะช่วยดูแลให้ผิวแข็งแรง และช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวไปในตัว
11.ช่วยปกป้องผิวจากรังสีที่อยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรือหน้าจอมือถือ ไม่ให้สัมผัสผิวโดยตรง
12.ลดความแห้งกร้านของผิว ช่วยรักษาความสมดุลให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ
13.ครีมกันแดดที่ออกแบบมาให้มีโทนสีสว่าง สามารถใช้ทาแทนรองพื้นได้
14.ช่วยทำให้ผิวแลดูขาวกระจ่างใสขึ้น เพราะเข้าไปลดปัญหาผิวที่เกิดขึ้นจากรังสีและความร้อนของแสงแดดที่สัมผัสมาก่อนหน้านี้
ประเภทของครีมกันแดด
1.ครีมกันแดดแบบ Chemical Sunscreen – ครีมกันแดดที่ทำหน้าที่ “ดูดซับรังสี” ส่วนผสมที่เป็นเคมี มีคุณสมบัติช่วยดูดซับรังสีเอาไว้ไม่ให้ทะลุไปถึงผิวหนังได้ ข้อดีคือความบางเบา มีสีอ่อน หรือไม่มีสีเลย เหมาะกับผิวแพ้ง่าย แต่ข้อเสียคือจำเป็นต้องทำซ้ำทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง จะช่วยป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.ครีมกันแดดประเภท Physical Sunscreen – ใช้สารเคมีที่ทำหน้าที่ “สะท้อนรังสี” จากผิวหนังทั้งหมดให้ออกไป ซึ่งเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองน้อยกว่ากลุ่มแรก แต่ข้อเสียคือมีค่า SPF ที่ไม่สูงมากนัก เนื้อครีมบางเบาแต่ไม่ละเอียดมากนัก เมื่อทาแล้วอาจมีขุยคล้ายแป้ง เนื้อครีมเป็นสีขาว ทำให้ผิวขาวมากจนเกินไปได้ หากทาในปริมาณมาก นั่นเป็นเพราะสารเคลือบจะทำหน้าที่สะท้อนกลับรังสี ไม่ให้ตกกระทบผิว
3.ครีมกันแดดแบบ Chemical-Physical sunscreen – เป็นชนิดพัฒนาขึ้นมา เป็นครีมกันแดดแบบผสม ทำให้มีประสิทธิภาพดี และเนื้อครีมละเอียด ใช้ได้กับผิวที่แพ้ง่าย เนื้อครีมไม่ขาวมากเกินไป ทำให้ทาได้ง่าย แต่ข้อเสียคือมีราคาแพง
ข้อควรรู้และข้อควรระวังในการใช้ครีมกันแดด
1.เลือกใช้ครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว โดยเฉพาะคนที่มีภาวะผิวแพ้ง่าย
2.ไม่มีครีมกันแดดยี่ห้อไหนที่สามารถช่วยป้องกันรังสี UV ได้เต็มร้อย ต้องทาอย่างสม่ำเสมอ เพราะไม่สามารถช่วยป้องกันได้ตลอดทั้งวันเช่นกัน
3.ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เลือกชนิดกันน้ำ กรณีเหงื่อออก จะได้ไม่ทำลายเกราะป้องกันได้ง่าย ๆ
4.หลังจาทาครีมกันแดดแล้ว เมื่อเข้าบ้านจะต้องล้างทำความสะอาดผิวหน้าให้เกลี้ยง เพื่อป้องกันการเกิดสิวอุดตัน
5.ค่า SPF ที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับกิจกรรมการใช้ชีวิต ถ้าอยู่ในบ้าน ทาครีมกันแดดที่มี SPF 15-20 ก็เพียงพอ แต่ถ้าหากออกกลางแจ้งบ่อย ควรเลือกใช้ SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป ถ้ายิ่งอยู่นาน ก็ให้เลือด SPF 50 ขึ้นไป จะได้ช่วยป้องกันผิวได้นานขึ้น
6.เลือกครีมกันแดดที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันสารเคมีอันตรายอื่น ๆ ที่อาจปะปนเข้ามาทำร้ายผิว
7.ทดสอบครีมกันแดดก่อนใช้จริง โดยทาที่ใต้ท้องแขนทิ้งไว้ราว 15 นาที เพื่อสังเกตความผิดปกติ
8.อ่านรายละเอียดวิธีใช้ครีมกันแดด ว่าเป็นชนิดใช้กับผิวกายหรือผิวหน้า หรือเป็นสูตรใช้ได้ทุกส่วนของผิว จะได้ใช้งานได้อย่างไม่ผิดพลาด จนทำให้เซลล์ผิวเสียหาย แม้ครีมกันแดดจะไม่สามารถป้องกันรังสียูวีได้ 100% ไม่ว่าจะเป็นค่า SPF สูงสุดแค่ไหนก็ตาม ดังนั้นจะต้องดูแลสุขภาพผิวให้ดีอยู่เสมอ สวมเสื้อแขนยาวมิดชิดร่วมด้วย จะได้ป้องกันแสงแดดและรังสีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น