เครื่องตัดหญ้าคืออะไร มีประโยชน์ ประเภทและอันตรายอะไรบ้าง?
เครื่องตัดหญ้า (Lawn mower) คือ อุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานสำหรับตัดหญ้าและพืชที่ไม่ต้องการภายในพื้นที่สวน หรือบริเวณสนามหญ้ารอบ ๆ บ้าน ส่วนประกอบของตัวเครื่องมักจะเป็นมีดหรือสายตัดติดตั้งอยู่บนเครื่อง เมื่อทำงานจะมีการหมุนด้วยความเร็วเพื่อเพิ่มแรงในการตัด ร่วมกับความคมของใบมีด ใช้งานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้กรรไกรตัด แถมยังประหยัดแรง ทุ่นเวลาได้อย่างมาก
ความนิยมในการใช้เครื่องตัดหญ้าจะเน้นพื้นที่บริเวณกว้าง ใช้งานได้ทั้งในการเกษตรเป็นหลัก และใช้สำหรับตกแต่งหน้าบ้านให้ดูสวยงาม
เครื่องมือชนิดนี้ถูกใช้งานเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงศตวรรษที่ 19 โดยยุคนั้นจะเป็นเครื่องตัดแบบมือถือ ที่ใช้แรงของมนุษย์ในการขับเคลื่อน โดยมีใบมีด 2-3 ใบใช้ในการตัด
กระทั่งปี ค.ศ. 1885 มีการประดิษฐ์เครื่องตัดหญ้าเครื่องแรกที่ใช้เครื่องยนต์ไอน้ำในการขับเคลื่อน แต่ยังผลิตได้จำนวนไม่มากนัก จนเข้าสู่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ความนิยมเพิ่มขึ้น ทำให้การผลิตจำนวนมากขึ้นตามมา เพื่อใช้ในการเกษตรและการดูแลพื้นที่ต่างๆ
ในปัจจุบัน เครื่องตัดหญ้ามีรูปแบบต่างๆ ที่สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ โดยมีการพัฒนาให้มีขนาดเล็กและใช้เป็นเครื่องมือส่วนตัวภายในบ้าน รวมถึงมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยทำให้การใช้งานง่าย และปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วย
ประโยชน์ของเครื่องตัดหญ้า
1.ใช้ตัดหญ้าหรือวัชพืชอื่น ๆ ที่ไม่ต้องการให้คลุมดินได้อย่างรวดเร็ว ทุ่นแรงการทำงานได้มากขึ้น
2.ช่วยทำให้การตัดหญ้าเป็นเรื่องง่ายขึ้น โดยไม่ต้องออกแรงมากนักเหมือนการใช้กรรไกรตัดแบบสมัยก่อน
3.ช่วยป้องกันไม่ให้โดนสัตว์หรือแมลงมีพิษกัด เพราะมีเครื่องตัดหญ้าคั่นขวางเอาไว้ จึงช่วยให้ใช้งานได้อย่างสบายใจ
4.ช่วยตกแต่งสนามหญ้าให้ดูสวยงาม ด้วยการลดความสูงของหญ้าให้เท่ากันได้อย่างสวยงาม ด้วยระบบที่สามารถตั้งค่าระดับการตัดได้
5.เป็นตัวช่วยทุ่นแรงและเวลาสำหรับชาวเกษตรกรที่ต้องตัดหญ้าในไร่ที่มีพื้นที่กว้าง
6.ดูแลให้รอบ ๆ บ้านไม่รก จนกลายเป็นที่อาศัยของสัตว์มีพิษ
7.การทำงานที่ช่วยตัดหญ้าออกมาได้สวยสม่ำเสมอทั่วกัน ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี พื้นดินดูเป็นระเบียบ สวยงาม
8.สำหรับการตัดหญ้าเพื่อช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต การใช้เครื่องตัดหญ้าจะช่วยให้หญ้างอกงามในระดับที่เหมาะสม และมีความหนาและมีสีเขียวสวยมากขึ้น
9.ลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บที่เกิดจากของมีคม เพราะไม่ต้องสัมผัสกับใบมีดโดยตรง
10.เป็นเครื่องมือสำหรับใช้ประโยชน์และสามารถใช้เป็นตัวช่วยลดน้ำหนักได้ในตัว ด้วยการใช้เครื่องตัดหญ้าแบบเดินตัด ทำให้มีการออกแรงและบังคับให้เกิดการเดินออกกำลังกาย
ประเภทของเครื่องตัดหญ้า มีกี่แบบ?
การแบ่งประเภทของเครื่องตัดหญ้าจะแบ่งออกตามการใช้งาน ดังนี้
1.เครื่องตัดหญ้าแบบสะพายบ่า
เป็นเครื่องตัดแบบเหวี่ยง มีการแบ่งย่อยออกเป็น 2 ชนิดคือแบบข้อแข็ง และข้ออ่อน นิยมใช้งานกับพื้นดินที่มีหญ้าปกคลุมรกชัน ต้นหญ้าสูง และลักษณะภูมิประเทศมีความสูงต่ำไม่เท่ากัน จะใช้งานได้สะดวก ด้วยการใช้แรงมือควบคุมระดับการตัดได้ แต่มีข้อเสียคือการใช้แรงคนเป็นหลัก ทำให้ตัดหญ้าในพื้นที่ได้ไม่มาก และถ้าเป็นพื้นที่กว้าง ต้องใช้เวลาและกำลังกายสูง
2.เครื่องตัดหญ้าแบบเดินตาม
ตัวเครื่องจะออกแบบให้มีด้วยกันทั้งหมด 4 ล้อ สามารถเข็นได้ เหมือนรถเด็กเล่น ด้านหลังมีกล่องสำหรับเก็บหญ้าที่ตัดแล้ว และมีที่จับด้านหลังเอาไว้ออกแรงช่วยดัน ควบคุมด้วยการเดินตาม ใช้งานบริเวณกว้างได้มากขึ้น และมีกำลังของเครื่องยนต์ในการทำงานเป็นหลัก จะเน้นใช้งานกับพื้นเรียบ และมีหญ้าไม่รกชันจนเกินไป
3.เครื่องตัดหญ้าแบบนั่งขับ
ถือว่าเป็นเครื่องตัดหญ้าที่มีคุณสมบัติดีเยี่ยม เพราะทุ่นแรงได้อย่างมาก ออกแบบให้มีที่นั่งและพวงมาลัยสำหรับขับ พร้อมกล่องเก็บหญ้าในตัว เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่กว้าง ทำเวลาได้ดี ไม่ต้องออกแรงในการขับเคลื่อน เพราะใช้มอเตอร์ทำงาน และยังเก็บหญ้าที่ตัดแล้วใส่กล่องทันที ไม่เสียเวลาทำความสะอาดพื้นที่เพิ่ม
อันตรายที่ควรระวังในการใช้งานเครื่องตัดหญ้า
1.เครื่องตัดหญ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน มีความคมมาก เสี่ยงที่จะหลุดกระเด็นโดนร่างกาย จนบาดเจ็บรุนแรงได้
2.อาจมีเศษหิน เศษไม้ และวัตถุที่เป็นของแข็งถูกใบมีดเตะขึ้นกระเด็นไปโดนร่างกายจนบาดเจ็บ หรือหากโดนทรัพย์สิน ก็อาจก่อให้เกิดความเสียหายได้
3.เครื่องตัดหญ้าที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง อาจทำให้เกิดไฟลุกได้จากประกายไฟขณะสตาร์ทเครื่อง ซึ่งมักมาจากการผลิตที่ไม่ได้คุณภาพ ไปจนถึงการไม่ยอมปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิต
4.เครื่องตัดหญ้าบางยี่ห้อมีเสียงดังมาก หากใช้ไปนาน ๆ โดยไม่ใส่เครื่องป้องกันเสียง จะส่งผลกระทบต่อการได้ยินในอนาคต มีผลต่อการดำเนินชีวิตได้
เครื่องตัดหญ้าเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการดูแลพื้นที่ ๆ มีต้นหญ้าปกคลุม ช่วยทุ่นแรงและเวลาได้อย่างมากมาย เมื่อเทียบกับการตัดหญ้าในยุคสมัยก่อน เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องมือชนิดนี้ ควรพิจารณาประเภทที่เหมาะสมกับการใช้งานให้เข้ากับพื้นที่ และเน้นยี่ห้อที่มีความปลอดภัยสูงเป็นสำคัญ
