กรรไกร เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับตัดวัสดุบาง ๆ โดยใช้แรงกดเล็กน้อย โดยใช้ตัดวัสดุ เช่น กระดาษ กระดาษแข็ง แผ่นโลหะบาง พลาสติกบาง อาหารบางอย่าง ผ้า เชือก และสายไฟ เป็นต้น นอกจากนี้ยังใช้เพื่อตัดผมก็ได้ ส่วนกรรไกรขนาดใหญ่อาจใช้ตัดใบไม้และกิ่งไม้ ซึ่งมีความแข็งแรงเป็นพิเศษ
กรรไกรมี 2 ใบมีด ที่มีคมและมีรอยหยักเล็กๆ ที่ขอบใบมีด เพื่อช่วยในการจับวัสดุที่ต้องการตัด ใบมีดทั้งสองเชื่อมต่อกันด้วยสลักเกลียวหรือหมุดย้ำ ซึ่งเป็นจุดหมุนของกรรไกร ทำให้ใบมีดทั้งสองสามารถเคลื่อนที่เข้าหากันและออกจากกันได้เมื่อออกแรงบีบที่ด้ามจับ
ประโยชน์ของกรรไกร
กรรไกรเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์หลากหลายรูปแบบ ทั้งในชีวิตประจำวันและในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ประโยชน์หลัก ๆ ของกรรไกรได้แก่:
ในชีวิตประจำวัน:
- การตัดวัสดุ: กรรไกรใช้ตัดวัสดุหลากหลายชนิด เช่น กระดาษ ผ้า ด้าย เชือก พลาสติกบาง ๆ และอื่น ๆ เพื่อการใช้งานต่าง ๆ เช่น ทำอาหาร งานฝีมือ เย็บปัก ตกแต่ง หรือซ่อมแซมสิ่งของ
- การทำอาหาร: กรรไกรครัวใช้ในการเตรียมอาหาร เช่น ตัดเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ หรือเส้นต่างๆ ทำให้การทำอาหารสะดวกและรวดเร็ว
- งานฝีมือ: กรรไกรเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำงานฝีมือ เช่น ตัดกระดาษ ทำการ์ด ตัดผ้า เย็บเสื้อผ้า หรือทำตุ๊กตา
- การดูแลส่วนตัว: กรรไกรใช้ตัดเล็บ ตัดผม หรือเล็มหนวดเครา ช่วยให้ดูแลตัวเองได้ง่ายขึ้น
ในอุตสาหกรรม:
- อุตสาหกรรมสิ่งทอ: กรรไกรใช้ตัดผ้าในกระบวนการผลิตเสื้อผ้าและสิ่งทออื่น ๆ
- อุตสาหกรรมการพิมพ์: กรรไกรใช้ตัดกระดาษในการผลิตหนังสือ นิตยสาร และสิ่งพิมพ์อื่น ๆ
- อุตสาหกรรมอื่น ๆ: กรรไกรยังใช้ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น อุตสาหกรรมเหล็ก อุตสาหกรรมพลาสติก และอุตสาหกรรมยานยนต์
ประโยชน์อื่น ๆ:
- การศึกษา: กรรไกรเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ช่วยพัฒนาทักษะยนต์ปรับและความคิดสร้างสรรค์
- การแพทย์: กรรไกรผ่าตัดเป็นเครื่องมือสำคัญในการผ่าตัดและการรักษาทางการแพทย์
กรรไกรมีประโยชน์หลากหลายและจำเป็นต่อชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมต่าง ๆ การเลือกกรรไกรที่เหมาะสมกับงานจะช่วยให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
การเลือกใช้กรรไกร
การเลือกใช้กรรไกรให้เหมาะสมกับงานจะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย นอกจากนี้ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของกรรไกรอีกด้วย ต่อไปนี้เป็นปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกกรรไกร:
1. วัสดุที่ต้องการตัด:
- กรรไกรตัดกระดาษ: เหมาะสำหรับตัดกระดาษและวัสดุบาง ๆ เช่น กระดาษห่อของขวัญ กระดาษแข็งบาง ๆ หรือกระดาษโน้ต
- กรรไกรตัดผ้า: เหมาะสำหรับตัดผ้าและวัสดุที่คล้ายคลึงกัน เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าไหม หรือผ้าใยสังเคราะห์
- กรรไกรครัว: เหมาะสำหรับตัดเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ หรือเส้นต่าง ๆ ในการทำอาหาร
- กรรไกรตัดกิ่งไม้: เหมาะสำหรับตัดกิ่งไม้เล็ก ๆ หรือต้นไม้ขนาดเล็ก
- กรรไกรอเนกประสงค์: เหมาะสำหรับตัดวัสดุหลากหลายชนิด เช่น กระดาษ พลาสติกบาง ๆ เชือก หรือลวด
2. ขนาดของกรรไกร:
- กรรไกรขนาดเล็ก: เหมาะสำหรับงานที่ละเอียดอ่อน เช่น งานฝีมือ หรือตัดวัสดุขนาดเล็ก
- กรรไกรขนาดกลาง: เหมาะสำหรับงานทั่วไป เช่น ตัดกระดาษ ตัดผ้า หรือตัดผม
- กรรไกรขนาดใหญ่: เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้แรง เช่น ตัดกิ่งไม้ หรือตัดวัสดุหนา
3. วัสดุที่ใช้ทำกรรไกร:
- กรรไกรสแตนเลส: มีความทนทานต่อการเกิดสนิมและการกัดกร่อน เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไปและงานครัว
- กรรไกรเหล็กกล้าคาร์บอน: มีความคมและแข็งแรง แต่ต้องดูแลรักษาเพื่อป้องกันการเกิดสนิม
- กรรไกรไทเทเนียม: มีน้ำหนักเบาและทนทานต่อการกัดกร่อน แต่มีราคาแพงกว่า
4. รูปแบบด้ามจับ:
- ด้ามจับตรง: เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้แรงกด เช่น ตัดกิ่งไม้
- ด้ามจับโค้ง: เหมาะสำหรับงานที่ต้องตัดวัสดุเป็นเส้นตรง เช่น ตัดผ้า
- ด้ามจับแบบ ergonomic: ออกแบบมาเพื่อให้จับถนัดมือและลดความเมื่อยล้า
5. ความถนัดมือ:
- กรรไกรสำหรับคนถนัดขวา: ออกแบบมาให้ใช้งานด้วยมือขวา
- กรรไกรสำหรับคนถนัดซ้าย: ออกแบบมาให้ใช้งานด้วยมือซ้าย
6. ราคา:
- กรรไกรมีราคาตั้งแต่หลักสิบบาทไปจนถึงหลักพันบาท ควรเลือกกรรไกรที่มีคุณภาพเหมาะสมกับงบประมาณและความถี่ในการใช้งาน
ข้อแนะนำเพิ่มเติม:
- ทดลองใช้ก่อนซื้อ: หากเป็นไปได้ ควรทดลองใช้กรรไกรก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าจับถนัดมือและเหมาะกับงานที่ต้องการ
- ดูแลรักษา: ทำความสะอาดกรรไกรหลังใช้งานและเก็บรักษาในที่แห้ง เพื่อป้องกันการเกิดสนิมและยืดอายุการใช้งาน
หวังว่าคำแนะนำเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกกรรไกรที่เหมาะสมกับคุณ