กระเป๋าเดินทางคืออะไร มีประโยชน์ ประเภทและข้อควรระวังในการใช้อย่างไรบ้าง?
กระเป๋าเดินทาง(Luggage) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ากระเป๋าสัมภาระ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการเดินทาง ส่วนประกอบของกระเป๋าลักษณะนี้จะมีช่องสำหรับใส่ของ มีเคส และช่องใส่ของขนาดใหญ่สำหรับบรรจุของใช้ส่วนตัวต่าง ๆ สำหรับเดินทาง ซึ่งอาจออกแบบให้เป็นช่องใส่ของตาข่าย มีเชือกคาดล็อคของด้านในให้เป็นระเบียบ และยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานอื่น ๆ เพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับแบรนด์และรุ่นที่เลือกซื้ออีกด้วย
ประโยชน์ของกระเป๋าเดินทาง
1.ใช้สำหรับบรรจุเสื้อผ้า และของใช้ส่วนตัว เมื่อต้องเดินทางไกลไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศแบบหลาย ๆ วัน
2.มีความสะดวกในการเก็บเสื้อผ้าและของใช้ให้เป็นระเบียบในระหว่างเดินทาง ไม่ต้องหอบพะรุงพะรัง ใช้งานด้วยกระเป๋าใบเดียวก็เพียงพอ
3.สามารถใช้งานเป็นที่เก็บของภายในบ้านได้ ทำให้บ้านดูเป็นระเบียบสวยงาม อีกทั้งยังสามารถซ้อนกันเป็นชั้น ทำให้ไม่เกะกะพื้นที่เก็บ
4.กระเป๋าเดินทางที่ออกแบบด้วยโครงที่แข็งแรง เป็นทรงสี่เหลี่ยม สามารถใช้เป็นเก้าอี้นั่งยามจำเป็นได้ เพราะสามารถรับน้ำหนักได้มาก
5.ใช้เป็นโต๊ะเขียนหนังสือยามฉุกเฉิน ด้วยพื้นผิวของกระเป๋าที่มีความเรียบ ทำให้สะดวกต่อการใช้งานได้
6.ใช้วางเป็นโต๊ะสไตล์ญี่ปุ่น วางจานอาหารสำหรับรับประทานได้แบบง่าย ๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องออกเดินทางไกลไปในที่ ๆ ไม่มีของใช้ที่สะดวกสบาย
7.กระเป๋าเดินทางแบบผ้าที่มีความหนานุ่ม สามารถใช้หนุนเป็นหมอนได้ ด้วยการยัดเอาเสื้อผ้าที่มีความนิ่มไว้ด้านใน เป็นไอเดียที่นักเดินทางท่องเที่ยวนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
8.กรณีที่เป็นกระเป๋าเดินทางแบบมีระบบนิรภัยที่ดี ช่วยทำหน้าที่เป็นตู้เซฟเก็บของมีค่าบางอย่างเอาไว้ในระหว่างเดินทางได้ โดยไม่ต้องกลัวหาย เพราะมีระบบล็อคด้วยรหัส
9.ใช้เป็นกระเป๋าเดินซื้อสินค้าได้ เหมือนกับรถเข็นตามห้างสรรพสินค้า เพราะมีล้อและหูจับ ทำให้สะดวกในการเคลื่อนที่ สามารถใส่ของได้ในปริมาณมากแบบไม่ต้องคอยหิ้วให้เมื่อย
10.ทำหน้าที่เป็นเหมือนเครื่องประดับประจำตัว มิกซ์แอนด์แมทช์ให้เข้ากับเสื้อผ้า ด้วยดีไซน์ของกระเป๋าเดินทางมีหลากหลาย ทั้งความสวยงาม สีสัน และแบรนด์ที่ได้รับความนิยม ทำให้สามารถนำมาใช้เป็นเทรนด์จับคู่กับแฟชั่นในฤดูกาลนั้น ๆ ได้
11.ใช้เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับถ่ายภาพสินค้า โดยการวางวัตถุที่ต้องการถ่ายไว้บนกระเป๋า หรือวางติดกระเป๋า ให้โทนสีของกระเป๋าเดินทางเป็นฉากหลัง หรือพื้น ซึ่งจะมีความสวยงามโดดเด่นเฉพาะตัว ประหยัดงบประมาณ ไม่ต้องซื้อฉากถ่ายภาพราคาแพง ๆ มาใช้
12.ถ้าเป็นกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ สามารถใช้เป็นที่กั้นประตู กรณีไม่ต้องการให้ใครเดินเข้ามารบกวน หรือไม่อนุญาตให้ใครผ่านเข้าออกตรงทางเดินที่เชื่อมต่อกัน สามารถใช้กระเป๋าเดินทางปิดทางเอาไว้ แล้วปิดด้วยเทปกาวเป็นแนวยาวเชื่อมกับผนัง บอกเป็นสัญลักษณ์ให้คนอื่นทราบ
13.กระเป๋าเดินทางแบบเป้ที่มีขนาดใหญ่ สามารถใช้งานเป็นร่มฉุกเฉินได้ เนื่องจากวัสดุส่วนมากจะผลิตจากไนลอนกันน้ำ และเคลือบสารกันน้ำอีกชั้น ทำให้กระเป๋ามีเนื้อผ้าในลักษณะแบบเดียวกันกับร่ม
วิธีเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางให้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพ
1.เลือกซื้อโดยดูจากขนาดของกระเป๋า ซึ่งมีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ เลือกไซส์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน จะได้ไม่เกะกะเกินจำเป็น
2.เช็ควัสดุที่ใช้ในการผลิตกระเป๋าก่อนซื้อ โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น Soft case คือแบบอ่อน และแบบ Hard case คือแบบแข็ง ข้อดีของกระเป๋าทั้งสองชนิดแตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตามควรเลือกชนิดที่มีความทนทาน ไม่ฉีกขาดง่าย การเย็บแข็งแรง และรับน้ำหนักได้ดี
3.เลือกดูความละเอียดในการดีไซน์ ถ้าเป็นเป้สะพายหลัง ควรมีการออกแบบให้รองรับสรีระของร่างกายได้ดี แต่ถ้าเป็นแบบล้อเลื่อน ควรใช้งานลื่อนไหล มีระยะหูหิ้วที่สะดวก พับเก็บง่าย
4.ดูปริมาณช่องเก็บของ ถ้ายิ่งมีช่องเยอะ ก็จะช่วยให้เก็บของได้เยอะ จัดของได้เป็นเป็นหมวดหมู่มากกว่า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจัดกระเป๋าให้เป็นระเบียบ ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานได้ดี
ข้อควรระวังในการใช้งานกระเป๋าเดินทาง?
1.กระเป๋าเดินทางบางยี่ห้อ ราคาถูกจนเกินไป สภาพภายนอกดูดี แต่เมื่อใช้ไปไม่นานกลับสึกหรอ ซิปแตก สอดไส้ด้วยกระดาษอัดด้านใน โดนน้ำแล้วพังเสียหายได้อย่างง่ายดาย
2.ระมัดระวังเรื่องของการรับประกันกระเป๋าเดินทาง จะต้องสอบถามรายละเอียดให้เข้าใจตรงกันกับผู้จำหน่ายด้วยว่า ชิ้นส่วนไหนที่รับประกัน ระยะเวลาปี และมีข้อจำกัดอะไรบ้าง
3.หลีกเลี่ยงการใส่ของเหลวลงไปในกระเป๋าเดินทาง เพราะจะทำให้หกเลอะเทอะสิ่งของอื่นได้แบบไม่รู้ตัว
4.หลีกเลี่ยงการติดสติกเกอร์หรือเทปกาวบนผิวกระเป๋าโดยตรง เพราะจะทำให้ผิวกระเป๋าหลุดลอกออกมาได้
กระเป๋าเดินทางใช้สำหรับการเดินทางตามชื่อ สามารถจุของได้ครั้งละมาก ๆ และด้วยน้ำหนักสิ่งของด้านใน ทำให้มีการออกแบบให้มีล้อลาก มีที่จับแบบปรับระดับได้ เพื่อใช้ทุ่นแรง นอกจากนี้ยังมีการดีไซน์ในรูปแบบอื่นอีกมากมาย ทั้งชนิดสะพายข้าง สะพายหลัง ไปจนถึงแบบหิ้วธรรมดาไม่มีล้อลาก มีขนาดให้เลือกแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปริมาณของที่ต้องการใส่ พฤติกรรมในการใช้งาน แต่ที่ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบันคือแบบมีล้อลาก โครงกระเป๋าเป็นโลหะ มีความแข็งแรงทนทาน เพื่อการรับน้ำหนักได้ครั้งละมาก ๆ และป้องกันไม่ให้กระเป๋ายุบตัว การเลือกซื้อจึงต้องพิจารณาจากพฤติกรรมการใช้ ความถี่ในการเดินทาง และระยะเวลาในการเดินทางแต่ละครั้งนานมากน้อยแค่ไหนด้วย จะได้เลือกชนิดที่ตอบโจทย์ได้อย่างคุ้มค่า