
แม้ว่าประเพณีลอยกระทงจะดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาโดยตรงในแวบแรก แต่จริงๆ แล้วมีความเชื่อมโยงกันในหลายแง่มุม
ความเชื่อมโยงระหว่างลอยกระทงกับพระพุทธศาสนา:
- การบูชารอยพระพุทธบาท: ตามคติความเชื่อทางพุทธศาสนา มีความเชื่อว่าการลอยกระทงเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่ประทับไว้ ณ ริมฝั่งแม่น้ำนัมมทานที ในประเทศอินเดีย และรอยพระพุทธบาทที่ประทับไว้ในพิภพของพญานาค ใต้ท้องน้ำ การลอยกระทงจึงเปรียบเสมือนการนำเครื่องสักการะไปบูชารอยพระพุทธบาท ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองแห่งนี้
- การบูชาพระเกศแก้วจุฬามณี: อีกหนึ่งความเชื่อ คือ การลอยกระทงเพื่อบูชาพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเป็นพระเกศาของพระพุทธเจ้าที่พระอินทร์นำไปบรรจุไว้ในผอบแก้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือ นิยมปล่อยโคมลอย ซึ่งเปรียบเสมือนการส่งเครื่องสักการะขึ้นไปบูชาพระเกศแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์
- การขอขมาพระแม่คงคา: แม้การขอขมาพระแม่คงคาจะเป็นความเชื่อที่มีรากฐานมาจากศาสนาพราหมณ์ แต่ก็สอดคล้องกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเรื่อง กตัญญูกตเวทิตา คือ การรู้คุณและตอบแทนบุญคุณ การลอยกระทงเพื่อขอขมาต่อแม่น้ำที่ให้แหล่งน้ำในการดำรงชีวิต จึงเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูต่อธรรมชาติ
- การละวางกิเลส: การลอยกระทงยังสามารถเชื่อมโยงกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเรื่องการละวางกิเลส โดยเปรียบกระทงเป็นสัญลักษณ์ของกิเลส ตัณหา และความทุกข์ เมื่อลอยกระทงออกไป ก็เปรียบเสมือนการปล่อยวางสิ่งเหล่านั้น ทำให้จิตใจสงบ ผ่องใส
แม้ประเพณีลอยกระทงจะไม่ได้เกิดขึ้นภายในพระพุทธศาสนาโดยตรง แต่ก็มีการผสมผสานความเชื่อ และนำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ ทำให้ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีที่งดงาม และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวพุทธ
ความเชื่อเกี่ยวกับประเพณีลอยกระทง
ประเพณีลอยกระทงเป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญของไทย ซึ่งมีความเชื่อหลากหลายที่เกี่ยวข้องทั้งในด้านศาสนาและวัฒนธรรมดั้งเดิม ความเชื่อเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการเชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และชีวิตประจำวันของผู้คนในสังคมไทย ดังนี้:
1. การบูชาพระแม่คงคา
หนึ่งในความเชื่อที่แพร่หลายที่สุดเกี่ยวกับลอยกระทงคือการบูชาและขอขมาต่อพระแม่คงคา เทพผู้ปกครองน้ำ ตามความเชื่อโบราณ คนไทยเชื่อว่าน้ำเป็นสิ่งที่ให้ชีวิต ไม่ว่าจะใช้ในการดื่ม อาบ ทำการเกษตร หรือคมนาคม อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำทำให้เกิดมลพิษและปนเปื้อน ดังนั้น การลอยกระทงจึงเป็นการแสดงความขอบคุณต่อพระแม่คงคาและขอขมาที่ได้ใช้น้ำในทางต่าง ๆ
2. การขอพรและปล่อยเคราะห์
การลอยกระทงยังถือเป็นโอกาสในการขอพรให้ชีวิตดีขึ้น ความเชื่อนี้มักเกี่ยวข้องกับการลอยความทุกข์ ความผิดหวัง หรือสิ่งไม่ดีออกไปจากชีวิต กระทงที่ลอยไปตามน้ำถือเป็นสัญลักษณ์ของการปล่อยเคราะห์ร้ายออกไป และขอให้สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตแทน
3. การบูชารอยพระพุทธบาท
ในแง่ของความเชื่อทางพุทธศาสนา การลอยกระทงมีความเกี่ยวข้องกับการบูชารอยพระพุทธบาทที่ประทับไว้บนริมฝั่งแม่น้ำนัมมทานทีในประเทศอินเดีย ชาวพุทธบางกลุ่มเชื่อว่าการลอยกระทงเป็นการสักการะรอยพระพุทธบาท ซึ่งแสดงถึงการแสดงความเคารพและความศรัทธาต่อพระพุทธเจ้า

4. การขอความรักและความสมหวัง
อีกหนึ่งความเชื่อยอดนิยมโดยเฉพาะในกลุ่มคนหนุ่มสาวคือการลอยกระทงเพื่อขอพรเรื่องความรัก คู่รักมักจะลอยกระทงร่วมกันโดยเชื่อว่าหากกระทงทั้งสองลอยไปด้วยกันอย่างราบรื่น แสดงถึงความรักที่จะยืนยาวและมั่นคง นอกจากนี้ คนโสดยังนิยมขอพรให้พบคู่ครองที่ดีในอนาคต
5. การสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพเจ้า
ในบางพื้นที่ ความเชื่อเรื่องการลอยกระทงยังเกี่ยวข้องกับการบูชาเทพเจ้าอื่น ๆ เช่น พระอุปคุต หรือเทวดาผู้คุ้มครองในน้ำ ชาวบ้านจะเชื่อว่าการบูชาด้วยกระทงจะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และนำพาความสงบสุขมาสู่ชุมชน
6. การทำบุญและส่งเสริมความเจริญ
ลอยกระทงยังเป็นช่วงเวลาที่หลายคนเชื่อว่าเป็นโอกาสที่ดีในการทำบุญ ปล่อยสัตว์น้ำ หรือบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น นอกจากการขอขมาและขอพรแล้ว ผู้คนยังใช้โอกาสนี้ในการสั่งสมบุญเพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต
7. การลอยกระทงเพื่อความสงบทางจิตใจ
สำหรับบางคน การลอยกระทงเป็นวิธีการระบายความทุกข์และผ่อนคลายจิตใจ กระทงที่ลอยไปไกลจากฝั่งเป็นสัญลักษณ์ของการปล่อยวางและการเริ่มต้นใหม่ ด้วยความหวังว่าจะพบความสุขและความสงบในอนาคต
ความเชื่อเกี่ยวกับประเพณีลอยกระทงสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นการขอขมาต่อพระแม่คงคา บูชารอยพระพุทธบาท หรือขอพรในด้านต่าง ๆ ประเพณีลอยกระทงยังเป็นการเสริมสร้างจิตสำนึกในเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมและการทำความดีในชีวิต