การเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพของทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์และช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดีตั้งแต่ในครรภ์
1. ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์:
- พบแพทย์: ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เพื่อประเมินสุขภาพโดยรวม ตรวจหาโรคประจำตัว และรับคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพระหว่างตั้งครรภ์
- ตรวจสุขภาพช่องปาก: สุขภาพช่องปากที่ดีมีความสำคัญระหว่างตั้งครรภ์ ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและทำความสะอาดฟันก่อนตั้งครรภ์
- ตรวจสอบประวัติการฉีดวัคซีน: ตรวจสอบว่าคุณได้รับวัคซีนที่จำเป็นครบถ้วน เช่น วัคซีนหัดเยอรมัน คางทูม และหัด
2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม:
- เลิกสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์: บุหรี่และแอลกอฮอล์เป็นอันตรายต่อสุขภาพของทารกในครรภ์ ควรเลิกอย่างเด็ดขาดก่อนตั้งครรภ์
- หลีกเลี่ยงสารเสพติด: สารเสพติดทุกชนิดเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด
- ระมัดระวังการใช้ยา: ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาใดๆ ก็ตาม แม้กระทั่งยาที่ซื้อได้เองตามร้านขายยา
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: รับประทานอาหารที่หลากหลายและครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนจากเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ ปลา และถั่ว
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายและเตรียมความพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์
- ควบคุมน้ำหนัก: ควรมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมก่อนตั้งครรภ์ ทั้งน้ำหนักตัวที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปอาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ได้
- จัดการความเครียด: ความเครียดอาจส่งผลต่อความสามารถในการตั้งครรภ์ ลองหาวิธีจัดการความเครียด เช่น การทำสมาธิ โยคะ หรือการออกกำลังกาย
3. เสริมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น:
- กรดโฟลิก: กรดโฟลิกเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันความผิดปกติของระบบประสาทของทารก ควรเริ่มรับประทานกรดโฟลิกอย่างน้อย 1 เดือนก่อนตั้งครรภ์
- ธาตุเหล็ก: ธาตุเหล็กช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ควรรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง หรือปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการเสริมธาตุเหล็ก
- วิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ: ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ ที่คุณอาจต้องเสริม
4. เตรียมความพร้อมทางด้านจิตใจ:
- พูดคุยกับคู่ของคุณ: พูดคุยกับคู่ของคุณเกี่ยวกับความพร้อมในการมีลูก การแบ่งหน้าที่ในการดูแลลูก และการวางแผนอนาคตของครอบครัว
- หาข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคลอด: อ่านหนังสือ เข้าร่วมคอร์ส หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์และการคลอด
- เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง: การตั้งครรภ์และการมีลูกจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคม
การเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับสุขภาพของทั้งแม่และลูก การดูแลสุขภาพและโภชนาการที่ดี การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการเตรียมความพร้อมทางด้านจิตใจ จะช่วยให้คุณมีการตั้งครรภ์ที่ราบรื่นและลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดี
สิ่งที่ไม่ควรทำก่อนการตั้งครรภ์
การเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งแม่และลูก การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมและสิ่งต่างๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและการตั้งครรภ์เป็นสิ่งจำเป็น นี่คือสิ่งที่ไม่ควรทำก่อนการตั้งครรภ์:
1. การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์:
- บุหรี่: สารเคมีในบุหรี่สามารถส่งผลกระทบต่อความสามารถในการตั้งครรภ์ เพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร คลอดก่อนกำหนด และทารกมีน้ำหนักตัวน้อย นอกจากนี้ยังอาจส่งผลต่อสุขภาพของทารกในระยะยาว
- แอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อทารกในครรภ์ อาจทำให้เกิดความผิดปกติแต่กำเนิดและปัญหาพัฒนาการต่างๆ
2. การใช้สารเสพติด:
- สารเสพติดทุกชนิด: ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติดผิดกฎหมายหรือยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์บางชนิด อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์และส่งผลต่อการตั้งครรภ์ได้
3. การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม:
- อาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง และโซเดียมสูง: อาหารเหล่านี้อาจทำให้น้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
- อาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุกหรือไม่สะอาด: อาหารดิบหรือปรุงไม่สุก เช่น เนื้อดิบ ปลาดิบ และไข่ดิบ อาจมีเชื้อแบคทีเรียหรือปรสิตที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของแม่และทารก
4. การสัมผัสสารเคมีอันตราย:
- สารเคมีในบ้านและที่ทำงาน: สารเคมีบางชนิด เช่น สารทำความสะอาด ยาฆ่าแมลง และสารเคมีในโรงงาน อาจเป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์และพัฒนาการของทารก
- รังสี: การสัมผัสรังสีในปริมาณมาก เช่น จากการเอกซเรย์ อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์
5. การออกกำลังกายที่หักโหม:
- การออกกำลังกายที่หนักเกินไป: อาจส่งผลเสียต่อการตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการออกกำลังกายที่เหมาะสมระหว่างเตรียมตัวตั้งครรภ์
6. การไม่ดูแลสุขภาพจิต:
- ความเครียดและวิตกกังวล: ความเครียดอาจส่งผลต่อความสามารถในการตั้งครรภ์และสุขภาพของทารก ควรหาวิธีจัดการความเครียด เช่น การทำสมาธิ โยคะ หรือการออกกำลังกาย
7. การไม่ปรึกษาแพทย์:
- โรคประจำตัว: หากคุณมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตั้งครรภ์ เพื่อวางแผนการดูแลสุขภาพและการใช้ยาที่เหมาะสม
สรุป:
การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมและสิ่งต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น และการดูแลสุขภาพให้ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยและมีลูกน้อยที่แข็งแรง