วันวาเลนไทน์คืออะไร มีประโยชน์และข้อควรระมัดระวังอะไรบ้าง?
วันวาเลนไทน์(Saint Valentine’s Day) คือ วันที่มอบให้เป็นวันแห่งความรัก ซึ่งมีการจัดเฉลิมฉลองกันทั่วโลก ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ส่วนมากความนิยมจะอยู่ในประเทศแถบตะวันตกมากกว่า แต่ด้วยความนิยมจึงแพร่หลายเข้าสู่ประเทศแถบตะวันออกด้วย
ในสมัยก่อนเป็นเพียงแค่การฉลองในกลุ่มนักบุญที่อยู่ในศาสนาคริสต์ยุคแรกเท่านั้น และมีชื่อเรียกวันดังกล่าวว่าวาเลนตินัส มีความหมายว่า “ความโรแมนติก” หลังจากนั้นมีการกำหนดวันวาเลนไทน์ขึ้นเป็นครั้งแรกโดยสมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ 1 ในปี ค.ศ. 496 แต่ถูกตัดออกจากปฏิทินโรมันทั่วไปเมื่อปี ค.ศ.1969
ยังมีเรื่องราวของนักบุญที่ชื่อว่าวาเลนไทน์ ผู้พลีชีพร่วมกับเพื่อนของเขาเพื่อศาสนาในแอฟริกา แม้เรื่องราวของเขาจะแทบไม่ถูกบันทึกไว้ นอกจากความรัก ความมีเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลกของเขาที่แสดงออกมาให้เห็น ซึ่งบทสุดท้ายของนักบุญจบด้วยการถูกประหารชีวิต ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 ทำให้วันดังกล่าวใช้เป็นวันระลึกถึงนักบุญเซนต์วาเลนไทน์ และเป็นวันแห่งความรัก เพราะในช่วงที่ถูกขัง เขาพบรักกับหญิงสาว มีการเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้เธอในคืนก่อนวันถูกประหาร เป็นจดหมายลาสั้น ๆ ที่ลงท้ายว่า “Love From Your Valentine” ซึ่งทำให้ผู้คนที่ได้ทราบเรื่องราวประทับใจ ยึดให้วันดังกล่าวเป็นวันแห่งความรักมาจนถึงปัจจุบัน
ประโยชน์ของวันวาเลนไทน์
1.ช่วยให้คู่รักได้แสดงความรักต่อกันมากขึ้นกว่าปกติ โดยใช้วันสำคัญดังกล่าวมอบของขวัญ หรือแสดงความรักที่พิเศษขึ้น
2.ช่วยทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักกระชับแน่นมากขึ้น เพราะการทำให้วันวาเลนไทน์เป็นวันพิเศษ สะท้อนว่าคู่รักให้ความสำคัญต่อกันและกัน
3.ช่วยเพิ่มสีสันให้ชีวิตคู่ ไม่ว่าจะเป็นช่วงวัยไหนก็ตาม ทำให้ความรักยืนยาว และมีความสุข
4.ทำให้คู่รักที่คบกันมานานได้ย้อนกลับไปนึกถึงวันแรก ๆ ที่รักกัน ว่าเป็นช่วงเวลาที่ทั้งคู่มีความสุขมากแค่ไหน
5.เป็นวันที่พ่อ แม่ ลูก และครอบครัว จะได้ใช้เวลาร่วมกัน อาจเป็นการร่วมรับประทานอาหารเย็นกันพร้อมหน้า หรือการได้ทำอาหารด้วยกันภายในครอบครัว
6.วันที่ลูก ๆ สามารถแสดงความรักกับพ่อและแม่ได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องรอให้ถึงวันพ่อหรือวันแม่เสมอไป เพราะนี่เป็นวันแห่งความรัก ไม่ได้จำกัดอยู่แค่คู่รักเท่านั้น
7.คนโสดสามารถใช้ช่วงเวลานี้ในการออกไปมีความสุขด้วยตัวเอง ได้ใช้เวลาเอาอกเอาใจตัวเอง ให้ความสำคัญกับตัวเองอย่างเต็มที่ได้
8.ใช้เป็นวันมงคลสำหรับการจัดงานแต่งงานได้ สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวเข้าพิธีวิวาห์ วันที่ 14 กุมภาฯ ถือว่าเป็นวันที่มีความหมายไม่แพ้กัน
9.ทำให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถขายดอกไม้ได้มากกว่าวันปกติ ช่วยเพิ่มรายและทำกำไรได้ดี
10.ช่วยให้คนที่ขายขนม หรือเบเกอรี่ต่าง ๆ มีรายได้เพิ่มมากขึ้น เพราะจะถูกนำไปมอบให้เป็นของขวัญสำหรับคนที่มีคู่
11.สามารถใช้วันวาเลนไทน์ขอคนที่ชอบเป็นแฟนได้ เพิ่มโอกาสที่อีกฝ่ายจะตอบตกลงสูงกว่าวันปกติ
ของขวัญที่นิยมมอบให้กันในวันวาเลนไทน์
1.ช่อดอกไม้
ถือว่าเป็นของขวัญยอดฮิตและคลาสสิค มีความหมายที่ดี สื่อถึงความรัก และความโรแมนติก
2.ช็อกโกแลต
อีกหนึ่งของขวัญที่เหมาะสำหรับการมอบให้ฝ่ายหญิง เป็นขนมหวานที่สื่อถึงความรัก และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้รับส่วนใหญ่อีกด้วย
3.ตุ๊กตา
ตุ๊กตาที่นิยมมอบให้กันมักจะเป็นตุ๊กตาหมี ตัวใหญ่ หรือตุ๊กตาแบบอื่นที่มีความน่ารัก น่ากอด เป็นตัวแทนแห่งความห่วงใย และยังเป็นของขวัญสุดน่ารักอีกด้วย
สิ่งที่ไม่ควรทำในวันวาเลนไทน์
1.หลีกเลี่ยงการโพสต์เพ้อเจ้อ ตัดพ้อคนรักลงบนโซเชี่ยลมีเดียให้คนอื่นรู้ เพียงเพราะอยากให้อีกฝ่ายมาเห็น และต้องการเรียกร้องความสนใจในวันดังกล่าว แต่นั่นกลับเหมือนการประจาน และเป็นการทำลายบรรยากาศระหว่างกันและกันได้
2.ไม่ควรคาดหวังกับการได้ของขวัญสุดอลังการมากจนเกินไป เพราะอีกฝ่ายอาจจะรู้สึกอึดอัด และอาจทำให้ผิดหวังจนคนให้สัมผัสได้ หากของขวัญชิ้นนั้นไม่ได้หวือหวา หรือไม่ได้มีของขวัญให้ด้วยเหตุจำเป็นใด ๆ ก็ตาม วันแห่งความรัก อาจกลายเป็นวันแห่งการทะเลาะ และเลิกรากันเลยก็เป็นได้
3.อย่าซื้อของขวัญที่แพงจนเกินกำลังของตัวเอง ทำให้เดือดร้อน กระทั่งต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อซื้อ เพียงเพราะต้องการให้อีกฝ่ายประทับใจ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การมอบของขวัญที่ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องแพงที่สุดอย่างที่คิด และความแพงก็ไม่ได้หมายความว่านั่นจะทำให้อีกฝ่ายรักคุณมากขึ้น วันแห่งความรักอย่างวันวาเลนไทน์ถือว่าได้รับความนิยม รู้จักกันทั่วโลก แม้จะเป็นวันที่ผู้คนควรแสดงความรักต่อกัน แต่ทว่าในวันธรรมดาอื่น ๆ ก็สามารถเป็นวันพิเศษได้ ไม่จำเป็นต้องรอแค่ช่วงเทศกาลเท่านั้น เพราะความรักมอบให้กันได้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบเพื่อน แบบแฟน แบบพ่อแม่ลูก หรือการแสดงความรักกับสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ส่วนวันพิเศษแบบนี้ ก็อาจจะเพิ่มความรักให้สำคัญมากขึ้นไปอีกขั้น