แก้วเก็บอุณหภูมิคืออะไร มีประโยชน์ วิธีเลือกซื้อ และอันตรายอะไรบ้าง?
แก้วเก็บอุณหภูมิ(Tumbler) คือ แก้วเอนกประสงค์ที่ใช้งานเก็บอุณหภูมิร้อนหรือเย็นของเครื่องดื่มประเภทต่าง ๆ ให้คงอยู่ได้นานขึ้น โดยปกติหากเป็นแก้วที่ออกแบบมาได้มาตรฐาน จะสามารถรักษาอุณหภูมิได้ยาวนานราว 8-12 ชั่วโมงเลยทีเดียว สามารถใช้งานพกพาติดตัวไปตามที่ต่าง ๆ ได้เหมือนกับแก้วน้ำทั่วไป เพียงแต่ว่าการออกแบบรวมถึงวัสดุจะมีความแตกต่างอย่างชัดเจน ตั้งแต่ส่วนของฝาด้านบนที่ปิดสนิทมิดชิด และแก้วที่มีความหนามากกว่า ในปัจจุบันได้รับความนิยมใช้งานอย่างแพร่หลาย เพราะสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ที่เห็นจะพบได้บ่อยจะเป็นวัสดุสแตนเลส 304 และพลาสติกปลอดสาร BPA ฝาปิดจะมีขอบยางเพื่อป้องกันการรั่วไหลของอุณหภูมิ มีรูสำหรับใส่หลอด และเปิดยกดื่มได้ มีสีสันและดีไซน์ที่หลากหลาย รวมถึงขนาด สามารถใส่ได้ทั้งน้ำเปล่า และเครื่องดื่มหลากหลาย เช่น ชา, กาแฟ, น้ำอัดลม, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
ในปัจจุบันมีหลากหลายวัสดุที่ถูกนำมาผลิต ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท แต่ที่พบได้บ่อยคือสแตนเลส และยังมีพลาสติกประเภท BPA มักออกแบบให้เป็นแก้วสองชั้น หรือที่เรียกว่า Double wall มีผนังด้านนอก และด้านใน มีพื้นที่ว่างระหว่างกันเป็นสุญญากาศ ช่วยให้ความร้อนและความเย็นถูกกักเก็บได้นาน เสมือนฉนวนกันความร้อน อุณหภูมิจากภายนอกและภายในถ่ายเทเข้าและออกได้ยาก ส่วนในปัจจุบันแก้วเหล่านี้มีดีไซน์ที่สวยงาม ทันสมัย มีการออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้งานที่สะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะในการพกพา นอกจากนี้บางแก้วยังมีขีดแจ้งเตือนการดื่มน้ำว่าควรดื่มเมื่อใด จนกลายเป็นแก้วใบโปรดในหมู่คนรักสุขภาพอย่างแพร่หลาย
ประโยชน์ของแก้วเก็บอุณหภูมิ
1.ใช้สำหรับเก็บเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นให้สามารถคงอุณหภูมิที่ต้องการได้ยาวนาน คงรสชาติที่ต้องการเอาไว้ได้โดยไม่ต้องคอยนำมาอุ่น หรือเติมน้ำแข็งเข้าไปใหม่
2.เป็นแก้วที่ใช้เก็บเครื่องดื่มเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้รสชาติดีได้ยาวนานหลายชั่วโมง เนื่องจากน้ำแข็งด้านในละลายช้า จึงไม่ทำให้เครื่องดื่มเจือจาง
3.เป็นแก้วที่มีการออกแบบแตกต่างจากแก้วทั่วไป เพราะมีฝาปิดที่มิดชิด มีที่หิ้ว และมือจับ เหมาะสำหรับพกพาออกไปใช้งานข้างนอกได้สะดวกสบาย
4.เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดปัญหาขยะจากแก้วพลาสติกที่ย่อยสลายได้ยาก แก้วเหล่านี้เข้ามาทำหน้าที่ช่วยให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลโลกมากขึ้น โดยการนำแก้วพกไปซื้อเครื่องดื่ม ลดการใช้แก้วที่ใช้แล้วทิ้ง
5.มีหลากหลายขนาดให้เลือก โดยทั่วไปจะมีขนาดใหญ่ จึงไม่ต้องคอยเติมน้ำหรือเครื่องดื่มอยู่บ่อย ๆ สามารถดื่มได้นาน จึงคุ้มค่าต่อการใช้ในแต่ละครั้ง
6.ใช้เป็นที่เก็บน้ำแข็งยามฉุกเฉินได้ โดยเฉพาะแก้วที่มีขนาดใหญ่ สามารถใส่น้ำแข็งเอาไว้โดยไม่ละลายได้หลายชั่วโมง ซึ่งอาจยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ได้เลยทีเดียว
7.เป็นกระบอกน้ำส่วนตัวที่ช่วยป้องกันไม่ให้สุ่มเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อโรคจากแก้วอื่น ๆ ที่อยู่นอกบ้าน เพราะไม่รู้ว่าแก้วเหล่านั้นทำความสะอาดมาดีแค่ไหน
8.ช่วยลดปริมาณของแก้วพลาสติกที่เป็นต้นตอของปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างมาก เพราะสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ยาวนานหลายปี
9.สามารถใช้เป็นของขวัญหรือสินค้าสมนาคุณสำหรับลูกค้าได้ เพราะมีประโยชน์ในการใช้งาน อีกทั้งยังสลักชื่อบริษัทหรือโลโก้แบรนด์ติดเอาไว้ที่ขวด ทำให้ผู้คนรู้จักมากขึ้น
10.มอบให้เป็นของขวัญแก่ผู้หลักผู้ใหญ่ได้ หรือจะมอบให้กับกลุ่มคนวัยทำงานในโอกาสพิเศษ ก็ถือว่ามีความหมายที่ดี และผู้ให้ก็รู้สึกดีใจที่ได้รับ
วิธีเลือกซื้อแก้วเก็บอุณหภูมิ ควรพิจารณาอะไรบ้าง?
1.ก่อนเลือกซื้อแก้วเก็บอุณหภูมิ ไม่ว่าจะราคาถูกหรือแพง อาจมีบางล็อตที่มีปัญหาในการผลิตเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะฉะนั้นให้ทำการเช็คสินค้าด้วยการเทน้ำเย็นใส่ลงไป แล้วรอสัก 2-3 นาที เช็คว่ารอบ ๆ แก้วมีไอน้ำเกาะหรือไม่ หากมีก็ควรทำการเปลี่ยน เพราะจะเก็บความเย็นได้ไม่นาน ซึ่งแก้วที่ดีจะต้องไม่มีไอน้ำเกิดขึ้นนั่นเอง
2.เลือกแก้วให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้งาน เพราะบางยี่ห้อออกแบบมาสำหรับใช้งานได้ทั้งร้อนและเย็น แต่บางยี่ห้อ บางรุ่น ก็ใช้งานได้ดีสำหรับเก็บความเย็นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
3.หากเป็นแก้วสแตนเลสต้องให้มั่นใจว่าผลิตจากสแตนเลสชนิด 304 เป็นหลัก เพราะมีความปลอดภัยสูง ไม่มีสารปนเปื้อน และช่วยกักเก็บอุณหภูมิได้ดี
4.เลือกแก้วที่มีฝาปิดแน่นสนิท ไม่หกเลอะเทอะได้ง่าย และมีการดีไซน์สำหรับดื่มและใส่หลอดได้ในฝาเดียว เพื่อช่วยให้การใช้งานสะดวกและคุ้มค่า
5.เช็คดูว่าแก้วสามารถเก็บความร้อนและเย็นได้นานอย่างน้อยกี่ชั่วโมง โดยทั่วไปหากมีราคาไม่สูงนัก อาจเก็บความร้อนได้ราว 2-3 ชั่วโมง ส่วนความเย็นจะอยู่ที่ 6-8 ชั่วโมง ส่วนแบรนด์ที่มีคุณภาพราคาแพง อาจเก็บได้ยาวนานกว่านั้นมาก การเลือกซื้อให้พิจารณาตามความเหมาะสมของการใช้งาน และงบประมาณร่วมด้วย
อันตรายที่ควรระวังในการใช้แก้วเก็บอุณหภูมิ
1.แก้วเก็บอุณหภูมิในท้องตลาดที่มีราคาถูกจนดูไม่น่าเชื่อ มักผลิตจากวัสดุที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งอาจมีปรอท สารปนเปื้อน และสารเคลือบผิวที่จะปะปนไปกับเครื่องดื่มเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยเมื่อใช้งานในระยะยาว
2.แก้วที่เป็นโลหะไม่มีคุณภาพ หากนำไปใส่เครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรด อาจกัดกร่อนเอาโลหะออกมาเจือปนเข้าสู่ร่างกาย ส่งผลให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพได้
3.หากเลือกชนิดของแก้วเก็บอุณหภูมิมาใช้งานแบบผิดวิธี เช่น ใช้แก้วที่เป็นวัสดุพลาสติกสำหรับเก็บความเย็นมาใส่เครื่องดื่มร้อนจัด จะทำให้พลาสติกละลาย และกลายเป็นสารพิษอันตรายต่อร่างกาย
ไม่ว่าจะมองไปทางไหนแก้วเก็บอุณหภูมิก็ล้วนได้รับความนิยม ดังนั้นการเลือกใช้งานควรพิจารณาให้ดี เน้นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เชื่อถือได้ นอกจากนี้ควรหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค เชื้อรา และแบคทีเรียที่มองไม่เห็นตามมา