หินกัวซาคืออะไร มีประโยชน์ ข้อดี และอันตรายอะไรบ้างที่ควรระวัง?
หินกัวซา(Gua sha stones) คือ เครื่องมือที่ใช้ในการคลายความตึงเครียด นวดผิว และเพิ่มการไหลเวียนโลหิต และยังเชื่อว่าช่วยนวดกระชับผิวหน้า ทำให้ใบหน้ากระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์ จัดอยู่ในการแพทย์ทางเลือกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในผู้หญิง และเริ่มแพร่หลายในกลุ่มผู้ชายที่ชอบดูแลผิว ซึ่งหินกัวซาแบบดั้งเดิมทำจากหยกหรือควอตซ์ แต่ในปัจจุบันมีตัวเลือกพลาสติกหรือวัสดุอื่น ๆ ที่มีราคาถูกให้เลือกซื้อ อีกทั้งยังมีรูปทรงที่หลากหลาย แต่โดยปกติแล้วจะมีทรงค่อนข้างเรียว มีขอบเล็กแบนกว่า เพื่อให้สามารถใช้ใกล้ตาหรือจมูกได้
ที่าของชื่อ Gua หมายถึงการลูบไล้ หรือการลากเส้น ส่วนคำว่า Sha หมายถึง แดง แปลได้ว่าเป็นรอยที่เกิดจากหินกัวซาถูไปตามผิวหนังและเกิดเป็นรอยแดงขึ้นมา แต่กระนั้นการใช้งานก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บ แต่กลับทำให้รู้สึกดี สบายผิวหน้า เสมือนได้รับการนวดผ่อนคลาย
ต้นกำเนิดของการนวดด้วยหินชนิดนี้ เริ่มต้นขึ้นในสมัยจีนโบราณ วัสดุที่นำมาใช้นวดคือพลอยที่เป็นเนื้ออ่อน หรือหยกโรสควอตซ์ ไปจนถึงหินออบซีเดียน เพราะเชื่อว่าหินเหล่านี้มีพลังธรรมชาติซ่อนอยู่ เป็นภูมิปัญญาที่มีมายาวนานหลายร้อยปี แม้การนวดจะไม่ได้ให้ผลลัพธ์ในทันทีเหมือนกับการศัลยกรรม แต่ก็ถือว่าเป็นศาสตร์ที่แพร่หลายมายาวนาน เป็นที่รู้จักมาจนถึงยุคปัจจุบัน แม้จะมีเทคโนโลยีกระชับผิวมากมายให้เลือกใช้ แต่ผู้คนที่รักสวยรักงามทั่วโลกก็ยังคงใช้งานกันอยู่เป็นประจำ
ประโยชน์ของหินกัวซา
1.การนวดด้วยหินกัวซาจะช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวชั้นหนังกำพร้าถูกกำจัดออกได้มากขึ้น ทำให้เซลล์ผิวใหม่ถูกสร้างแทนที่ ผิวจะแลดูกระจ่างใส ลดริ้วรอยให้จางลง
2.ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดบริเวณผิวที่นวด โดยเฉพาะบริเวณผิวหน้า สามารถแก้อาการปวดศีรษะ หรืออาการเมื่อยล้าที่ดวงตาจากการจ้องหน้าจอให้ดีขึ้นได้
3.หากนวดเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะมีส่วนช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน ผิวเต่งตึง และดูเด็กลง
4.หินกัวซาถูกนำมาใช้เป็นเครื่องประดับต่าง ๆ เช่น แหวน สร้อยคอ หรือต่างหู เนื่องจากมีลวดลายและสีสันที่สวยงามแบบไม่เหมือนใคร
5.ช่วยเสริมการทำงานของหลอดเลือดเล็ก ๆ และกระตุ้นการรักษาและฟื้นฟูเซลล์ผิวหนัง
6.การใช้หินกัวซาสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดบางอย่างได้ เช่น อาการปวดหลัง อาการเจ็บจากการอักเสบของกล้ามเนื้อ หรืออาการเจ็บปวดจากอาการเคลื่อนไหว ไปจนถึงอาการที่มาจากออฟฟิศซินโดรม ด้วยการใช้หินกัวซานวดเฉพาะจุดที่มีอาการ
7.ช่วยกระตุ้นระบบน้ำเหลือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เซลล์ของร่างกายแข็งแรง ต่อต้านเชื้อโรคและสารพิษได้ดีขึ้น
8.สามารถกระตุ้นกระบวนการผลิตคอลลาเจนที่ชั้นผิวให้เพิ่มขึ้น ทำให้ผิวแลดูเต่งตึง ลดความหย่อนคล้อยได้
9.การนวดด้วยหินกัวซาสามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดความเครียดในแต่ละวัน ด้วยการนวดก่อนนอน จะทำให้กล้ามเนื้อที่ตึงค่อย ๆ คลายตัว จนรู้สึกสบายขึ้น
10.การนวดกัวซาช่วยทำให้รู้สึกสบาย กระตุ้นการหลั่งสารเซราโทนินในสมอง ทำให้จิตใจสงบ มีสมาธิ ทำให้คนที่นอนหลับยาก หลับได้ง่ายขึ้น
ข้อดีของศาสตร์การใช้หินกัวซาดูแลผิว
1.เป็นหินที่มีขนาดเล็ก สามารถพกพาได้สะดวก นวดได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ แม้จะนวดบ่อยก็ไม่ทำให้เกิดอันตราย
2.เนื่องจากเป็นการนวดผิวภายนอก ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีอันตรายเหมือนการทำศัลยกรรม แม้ไม่ได้ทำให้เห็นผลทันที แต่อย่างน้อยที่สุดก็ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
3.สามารถนวดด้วยตัวเองได้ เพียงแค่มีหินกัวซาเท่านั้น สามารถปรับระดับความแรงในการนวดได้เองด้วยน้ำหนักมือ
4.หินกัวซาที่มาจากธรรมชาติ จะมีความเย็นเมื่อสัมผัสผิว ทำให้รู้สึกสบาย คลายร้อนได้
5.นวดกัวซาได้ทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง, ผิวมัน หรือผิวที่แพ้ง่ายก็ตาม เพราะไม่มีสารอันตรายที่มาจากเคมี หรือแม้กระทั่งสารจากธรรมชาติอื่น ๆ จึงไม่ต้องกังวลแม้จะเป็นผิวที่ไวต่อสารต่าง ๆ ก็ตาม
อันตรายที่ควรระวังในการใช้หินกัวซา
1.ควรระวังในการใช้หินกัวซาในการนวด ไม่ควรทิ้งน้ำหนักบนผิวมากเกินไป อาจทำให้เกิดบาดแผลหรืออาการเจ็บ ถึงขั้นผิวหนัง เส้นเอ็น และกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรงได้
2.การใช้กัวซาในบริเวณหน้า รอบดวงตา และส่วนที่มีโพรงหน้ากระดูก หากทำผิดวิธี อาจทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตา และผิวที่มีความบอบบางตามมา
3.หากใช้กัวซาในบริเวณที่เป็นแผล หรือผิวหนังอักเสบบวมอยู่แล้ว จะยิ่งไปกระตุ้นอาการทำให้การอักเสบหนักยิ่งขึ้น
4.หินกัวซาที่ใช้งานโดยไม่เคยทำความสะอาด จะกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค เมื่อนำมาใช้นวด จะทำให้ผิวระคายเคือง เกิดการติดเชื้อได้
5.หากกัวซาผิวบ่อยจนเกินไป เสี่ยงที่จะทำให้เกิดการบอบช้ำ จนผิวหนังบวม ตามมาด้วยอาการอักเสบ และเป็นหนองด้านใน อันตรายถึงขั้นติดเชื้อรุนแรงตามมา
อย่างไรก็ตาม การใช้หินกัวซาเป็นเทคนิคการบำบัดที่ไม่ได้รับการยอมรับในวงการการแพทย์แผนปัจจุบัน ดังนั้น ควรปฏิบัติด้วยความระมัดระวังและขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเสมอก่อนที่จะใช้ เพื่อช่วยให้การนวดทำได้อย่างถูกวิธี จะได้มีประโยชน์ต่อผิวและสุขภาพได้อย่างไร้กังวล