แผนที่คืออะไร มีประโยชน์ ประเภทและข้อควรระวังอะไรบ้าง?
แผนที่(Map) คือ สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เป็นแบบจำลองของสภาพแวดล้อม หรือลักษณะของพื้นผิวโลก มีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับว่าต้องการจำลองให้เห็นสิ่งไหนเป็นพิเศษ โดยสิ่งที่ปรากฏอยู่ในแผนที่ ยังรวมไปถึงสิ่งก่อสร้างทุกอย่างที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วย มีการออกแบบเพื่อให้เข้าใจง่าย แสดงทั้งลักษณะทางกายภาพแบบสองมิติหรือแนวระนาบ และแบบสามมิติที่เห็นได้ในปัจจุบัน ส่วนประกอบภายในแผนที่ตามมาตรฐานแล้วจะต้องมีชื่อของแผนที่ เพื่อให้รู้ว่าใช้งานในด้านใน ภายในจะระบุรายละเอียดให้เหมาะสมตามการใช้งาน ถัดมาคือขอบระวางแผนที่, ทิศทาง, สัญลักษณ์ และมาตราส่วน
ย้อนกลับไปในอดีต มีการค้นพบแผนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เมื่อ 2,300 ปีก่อนพุทธศักราช สร้างขึ้นโดยชาวเมโสโปเตเมีย วัสดุเป็นดินเหนียวเพื่อแสดงกรรมสิทธิที่ดิน และยังค้นพบแผนที่ของชาวเอสกิโมโบราณ จะใช้ไม้สลักลายเส้นลงบนหนังแมวน้ำ เพื่อแสดงแหล่งที่ใช้หาปลา และล่าสัตว์ นอกจากนี้ชาวมาร์แชลซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะ ใช้เปลือกหอยเป็นสัญลักษณ์ของเกาะ ส่วนก้านมะพร้าวคือเส้นทางเดินเรือ ต่อมาสมัยกรีกโบราณ ถือว่าเป็นต้นกำเนิดรากฐานของแผนที่ และยุคของปโตเลมี ก็พยายามพัฒนาแผนที่ให้ดีขึ้น ซึ่งทำให้เห็นว่าในทุกยุคทุกสมัย ผู้คนที่มีความรู้พยายามปรับปรุงให้แผนที่เป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้ง่าย มีความแม่นยำ และพิกัดชัดเจน จะได้ช่วยให้การใช้งานได้อย่างไม่ผิดพลาดตามมา
ประโยชน์ของแผนที่
1.สามารถนำไปใช้ดูข้อมูลด้านภูมิศาสตร์ของพื้นผิวโลกโดยรวมได้ ว่าตำแหน่งไหนเป็นพื้นดิน ตำแหน่งไหนเป็นน้ำ หรือน้ำแข็ง เป็นต้น
2.ช่วยให้การเดินทางสะดวกรวดเร็ว ด้วยการใช้แผนที่เดินทางที่บอกเส้นทางถนน ลดความเสี่ยงในการหลงทางเมื่อต้องเดินทางไกล
3.ช่วยให้รู้ระยะที่จะเดินทางไป สามารถประมาณเวลาได้ว่าจะถึงจุดหมายเมื่อไหร่ ทำให้เกิดการนัดหมายทำได้ง่ายขึ้น
4.แผนที่ช่วยให้เข้าใจสภาพทางภูมิศาสตร์ได้ง่าย ทำให้รู้ข้อมูลพื้นฐานนำไปพัฒนาเศรษฐกิจ และใช้ในด้านการเมืองได้
5.ใช้เพื่อการศึกษาในด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับพื้นผิวโลก หรือเส้นทางถนน ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจมากขึ้น
6.สามารถนำเอาข้อมูลในแผนที่ไปใช้ในด้านาวางแผนทางยุทธศาสตร์ทางทหาร เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติ
7.ใช้เป็นตัวบอกเส้นเขตแดนของประเทศต่าง ๆ ทำให้เกิดความเข้าใจตรงกัน เพราะแผนที่ในปัจจุบันจะเป็นชนิดมาตรฐานในการแบ่งเขต
8.ทำให้รู้การเปลี่ยนแปลงไปของสภาพภูมิศาสตร์ ที่เกิดขึ้นในอดีต และรูปแบบของแผนที่ในปัจจุบัน ค้นหาสาเหตุของการเปลี่ยนแปลง นำไปสู่การค้นคว้าปรากฏการณ์ในอนาคตได้
9.ใช้เป็นตัวช่วยชี้พิกัดสถานที่ต่าง ๆ ที่ต้องการบอกให้ผู้อื่นทราบ ทำให้รู้ว่าสถานที่นั้นอยู่ตรงไหน ช่วยให้เดินทางไปยังที่หมายได้อย่างถูกต้อง
10.การสร้างแผนที่ขึ้นมา ทำให้นำไปสู่การพัฒนาระบบ GPS หรือเครื่องนำทาง ง่ายต่อการใช้งานสำหรับคนที่ดูแผนที่ไม่ถนัด
11.ใช้เป็นสื่อการสอนให้กับนักเรียนและนักศึกษาที่มีความสนใจ ให้เข้าใจข้อมูลทางกายภาพของโลกได้ชัดเจน โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลไปถึงสถานที่จริง
12.ใช้เป็นข้อมูลเพื่อนำเสนอแก่นักท่องเที่ยวได้ทราบถึงสถานที่สำคัญว่าอยู่ตรงไหน และในประเทศมีแหล่งท่องเที่ยวอะไรบ้าง ถือได้ว่าเป็นสื่อที่ใช้เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวก็ว่าได้
ประเภทของแผนที่ มีอะไรบ้าง?
แผนที่โดยทั่วไปจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามรูปแบบมาตรฐานที่ใช้งานกันทั่วโลก ดังนี้
1.แผนที่แบบภาพถ่าย(Photomap)
แผนที่ ๆ จะแสดงอกมาเป็นภาพถ่ายทางอากาศ มองเห็นได้สภาพภูมิประเทศได้ชัดเจน อาจเป็นแค่บางส่วนที่ต้องการ หรือนำภาพมาประกอบเข้าด้วยกันด้วยเทคนิคพิศษ ทำให้มองเห็นพื้นที่ขนาดใหญ่ทั้งหมดได้ และเป็นภาพจริงของพื้นที่ ไม่ต้องจินตนาการเอาเอง
2.แผนที่แบบลายเส้น(Line maps)
เป็นส่วนประกอบของลายเส้นโค้ง และเส้นตรง บอกด้วยสัญลักษณ์ในแนวราบสองมิติในมุมสูง มีสัญลักษณ์ต่าง ๆ ปรากฏอยู่ พร้อมข้อความสถานที่สำคัญ เน้นใช้งานเพื่อการเดินทาง
3.แผนที่แบบผสม(Annotated maps)
เป็นการนำเาแผนที่ลายเส้นและแผนที่ภาพถ่ายมาผสมเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดเป็นรายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย
ข้อควรระวังในการใช้งานแผนที่
1.ควรเลือกใช้แผนที่ ๆ มีความแม่นยำ และใช้งานกันโดยทั่วไปเป็นมาตรฐาน เพื่อป้องกันข้อมูลที่ผิดพลาด หลีกเลี่ยงการใช้แผนที่แบบเขียนด้วยลายมือจากความจำ หรือได้มาจากแหล่งที่ไม่มีข้อมูลชัดเจน จะทำให้เกิดความคลาดเคลื่น นำมาซึ่งอันตราย หากหลงเข้าไปในเขตแดนต้องห้าม โดยเฉพาะสถานที่ ๆ ไม่เคยรู้จักมาก่อน
2.แม้จะมีแผนที่เป็นตัวช่วยในการเดินทาง แต่ก็ต้องระมัดระวังไม่เชื่อข้อมูลเหล่านั้นมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้หลงทาง ควรดูสภาพแวดล้อมรอบด้านควบคู่ไปด้วย
3.ก่อนใช้งานแผนที่ต้องรู้จักทิศก่อน โดยสามารถใช้เข็มทิศเป็นตัวช่วยบอกทาง มิเช่นนั้นจะทำให้เดินทางผิด ไม่สามารถไปยังจุดหมายจริง ๆ ได้ เพราะอาจเกิดขึ้นจากการเดินทางไปคนละทิศโดยสิ้นเชิงนั่นเอง
ในปัจจุบันแผนที่กลายเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยแผนที่ออนไลน์ ซึ่งมีการอัพเดตอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่างไรก็ตามควรศึกษาเพื่อทำความเข้าใจแผนที่ในรูปแบบแผ่น หรือแบบเล่มเอาไว้ด้วย จะได้ช่วยให้สามารถแก้ปัญหาในภาวะฉุกเฉินได้