
ไม้ไผ่ หรือ ไผ่ เป็นพืชชนิดหนึ่งในวงศ์หญ้า (Poaceae) วงศ์ย่อย Bambusoideae เป็นไม้ไม่ผลัดใบ ขึ้นเป็นกอ ลำต้นเป็นปล้องๆ มีข้อและป้อง
ลักษณะทั่วไป:
- ลำต้น: ลำต้นตรง กลม เรียว เป็นปล้องๆ มีข้อและป้อง ผิวเรียบเป็นมัน มีสีเขียว เหลือง หรือดำ
- ใบ: ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอก ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ
- ดอก: ดอกออกเป็นช่อขนาดใหญ่ มีดอกย่อยจำนวนมาก
- ผล: ผลมีขนาดเล็ก รูปร่างกลมหรือรี
ประโยชน์ของไม้ไผ่
ไผ่เป็นพืชที่มีประโยชน์หลากหลายด้าน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ดังนี้:
1. ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ:
- วัสดุก่อสร้าง: ไผ่มีความแข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักเบา จึงนิยมนำมาใช้ในการก่อสร้างบ้านเรือน รั้ว และโครงสร้างต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์และของใช้ในครัวเรือนได้อีกด้วย
- อุตสาหกรรม: ไผ่ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมกระดาษ เยื่อกระดาษ เส้นใยสิ่งทอ และอุตสาหกรรมอาหาร (เช่น หน่อไม้)
- สร้างรายได้: การปลูกไผ่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชน ทั้งจากการขายหน่อไม้ ลำไผ่ และผลิตภัณฑ์จากไผ่ต่างๆ
2. ประโยชน์ทางสังคม:
- วัฒนธรรมและประเพณี: ไผ่มีความผูกพันกับวัฒนธรรมและประเพณีของคนไทยมาอย่างยาวนาน ถูกนำมาใช้ในงานเทศกาล งานประเพณี และกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ
- การสร้างงานและอาชีพ: อุตสาหกรรมไผ่สามารถสร้างงานและอาชีพให้กับคนในชุมชน ทั้งในด้านการปลูก การแปรรูป และการผลิตภัณฑ์จากไผ่
- การพัฒนาชุมชน: การส่งเสริมการปลูกไผ่และการแปรรูปสามารถช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชุมชนให้เข้มแข็งขึ้น
3. ประโยชน์ทางสิ่งแวดล้อม:
- ลดการพังทลายของดิน: ไผ่มีระบบรากที่แข็งแรง ช่วยยึดเกาะดินและป้องกันการพังทลายของดินได้ดี
- ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์: ไผ่เป็นพืชที่เติบโตเร็วและดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดีกว่าต้นไม้ทั่วไป ช่วยลดภาวะโลกร้อน
- ฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรม: ไผ่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย จึงสามารถนำมาใช้ในการฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมได้
- รักษาความหลากหลายทางชีวภาพ: ป่าไผ่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด ช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ

4. ประโยชน์อื่นๆ:
- เป็นอาหาร: หน่อไม้เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ มีเส้นใยอาหารสูง และมีแคลอรี่ต่ำ
- เป็นยา: ส่วนต่างๆ ของไผ่ เช่น ใบ ราก และลำต้น มีสรรพคุณทางยาที่ใช้ในการรักษาโรคต่างๆ
- เป็นวัสดุธรรมชาติที่ยั่งยืน: ไผ่เป็นวัสดุธรรมชาติที่ยั่งยืน สามารถนำมาใช้ทดแทนวัสดุที่ทำจากพลาสติกหรือโลหะได้
- เป็นพืชที่สวยงาม: ไผ่มีรูปทรงและสีสันที่สวยงาม สามารถนำมาปลูกเป็นไม้ประดับได้
ด้วยประโยชน์ที่หลากหลายเหล่านี้ ไผ่จึงเป็นพืชที่มีคุณค่าและควรค่าแก่การอนุรักษ์และส่งเสริมให้มีการปลูกและใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน

ไม้ไผ่ประเภทต่าง ๆ
ในประเทศไทยพบไผ่หลากหลายชนิด โดยสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ดังนี้
- ไผ่ประเภทมีหนาม: ไผ่ในกลุ่มนี้มีหนามตามลำต้นและกิ่งก้าน เช่น ไผ่หนาม ไผ่ป่า
- ไผ่ประเภทไม่มีหนาม: ไผ่ในกลุ่มนี้ไม่มีหนามตามลำต้นและกิ่งก้าน แบ่งย่อยได้อีกหลายชนิด เช่น
- ไผ่ตง: ลำต้นขนาดใหญ่ แข็งแรง นิยมใช้ในงานก่อสร้าง เช่น ไผ่ตงหม้อ ไผ่ตงดำ ไผ่ตงเขียว
- ไผ่สีสุก: ลำต้นขนาดกลาง ผิวสีเหลือง นิยมใช้ทำเครื่องจักสาน เช่น ไผ่สีสุกเล็ก ไผ่สีสุกใหญ่
- ไผ่รวก: ลำต้นขนาดเล็ก ขึ้นเป็นกอหนาแน่น นิยมใช้ทำรั้ว เช่น ไผ่รวกดำ ไผ่รวกใหญ่ ไผ่รวกหวาน
- ไผ่เลี้ยง: ลำต้นขนาดกลาง ผิวสีเขียว นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ เช่น ไผ่เลี้ยงหวาน ไผ่เลี้ยงลำลาย
- ไผ่ข้าวหลาม: ลำต้นขนาดกลางถึงใหญ่ นิยมใช้ทำข้าวหลาม เช่น ไผ่ข้าวหลามกาบแดง ไผ่ข้าวหลามหนู
- ไผ่ประเภทมีแขนง: ไผ่ในกลุ่มนี้มีแขนงแตกออกจากลำต้นหลัก เช่น ไผ่ผาก ไผ่บง
- ไผ่ประเภทไม่มีแขนง: ไผ่ในกลุ่มนี้ไม่มีแขนงแตกออกจากลำต้นหลัก เช่น ไผ่ตง ไผ่สีสุก
- ไผ่ประเภทเป็นกอ: ไผ่ในกลุ่มนี้ขึ้นเป็นกอ เช่น ไผ่รวก ไผ่เลี้ยง
- ไผ่ประเภทไม่เป็นกอ: ไผ่ในกลุ่มนี้ไม่ขึ้นเป็นกอ แต่จะขึ้นเป็นลำเดี่ยวๆ เช่น ไผ่ตง ไผ่สีสุก
- ไผ่ประเภทใช้หน่อ: ไผ่ในกลุ่มนี้มีหน่อที่สามารถนำมารับประทานได้ เช่น ไผ่ตง ไผ่รวกหวาน ไผ่เลี้ยงหวาน ไผ่ข้าวหลาม
- ไผ่ประเภทใช้ลำ: ไผ่ในกลุ่มนี้มีลำต้นที่แข็งแรง นิยมนำมาใช้ในงานก่อสร้างและงานหัตถกรรม เช่น ไผ่ตง ไผ่สีสุก ไผ่รวก
การเลือกใช้ไผ่ชนิดต่างๆ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เช่น หากต้องการนำมาใช้ในการก่อสร้าง ควรเลือกไผ่ตงที่มีลำต้นแข็งแรง หากต้องการนำมาใช้ทำเครื่องจักสาน ควรเลือกไผ่สีสุกที่มีลำต้นเหนียวและยืดหยุ่นได้ดี
เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....



