
การเอาตัวรอดจากไฟไหม้รถเป็นสถานการณ์ที่อันตรายมาก ต้องมีสติและปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างรวดเร็วเพื่อความปลอดภัย
ขั้นตอนการเอาตัวรอดเมื่อเกิดไฟไหม้รถ
- ตั้งสติและประเมินสถานการณ์: สิ่งแรกที่ต้องทำคือตั้งสติ อย่าตกใจ สังเกตว่าไฟไหม้มาจากส่วนไหนของรถ และรถยนต์ยังเคลื่อนที่ได้หรือไม่
- จอดรถในที่ปลอดภัย: หากรถยังเคลื่อนที่ได้ ให้รีบนำรถจอดเข้าข้างทางในที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะทำได้
- ดับเครื่องยนต์: ดับเครื่องยนต์ทันที
- ปลดเข็มขัดนิรภัย: ปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองและผู้โดยสารทุกคน
- ออกจากรถอย่างรวดเร็ว: ออกจากรถโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยให้ทุกคนออกจากรถทางด้านที่ไกลจากไฟมากที่สุด
- เตือนผู้โดยสารคนอื่น: หากโดยสารรถสาธารณะ ให้รีบแจ้งเตือนผู้โดยสารคนอื่นๆ ให้ทราบ
- หาทางออกฉุกเฉิน: หากประตูรถด้านที่ไกลจากไฟเปิดไม่ได้ ให้มองหาทางออกฉุกเฉินอื่นๆ เช่น หน้าต่าง
- ออกจากรถให้เร็วที่สุด: เมื่อพบทางออกฉุกเฉิน ให้ออกจากรถโดยเร็วที่สุด
- เคลื่อนย้ายออกจากรถ: เมื่อออกจากรถได้แล้ว ให้รีบเคลื่อนย้ายออกห่างจากรถยนต์อย่างน้อย 100 เมตร เพื่อความปลอดภัย
- โทรแจ้งเหตุฉุกเฉิน: โทรแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 หรือ 199 แจ้งตำแหน่งที่เกิดเหตุ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบหากมีผู้บาดเจ็บ
ข้อควรระวัง
- อย่าพยายามดับไฟด้วยตัวเอง หากไฟลุกลามมาก ควรหนีออกมาจากรถให้เร็วที่สุด
- อย่ากลับเข้าไปในรถอีก
- หากมีควันไฟ ให้คลานต่ำ ควันไฟจะลอยตัวสูงขึ้น การคลานต่ำจะช่วยให้เราหายใจได้สะดวกขึ้น
- หากเสื้อผ้าติดไฟ ให้หยุด นอนราบกับพื้น แล้วกลิ้งตัวไปมาเพื่อดับไฟ
สิ่งที่ควรมีติดรถ
- ถังดับเพลิง
- ค้อนทุบกระจก
- อุปกรณ์ตัดเข็มขัดนิรภัย

การป้องกันไฟไหม้รถ
การป้องกันไฟไหม้รถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรใส่ใจ เพราะนอกจากจะช่วยรักษาทรัพย์สินแล้ว ยังช่วยป้องกันอันตรายถึงชีวิตได้อีกด้วย มาดูกันว่ามีวิธีการป้องกันอย่างไรบ้าง
การดูแลรักษารถยนต์
- ตรวจสอบระบบไฟฟ้าเป็นประจำ: ระบบไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพหรือชำรุด อาจทำให้เกิดการลัดวงจรและเป็นสาเหตุของไฟไหม้ได้ ควรตรวจสอบสายไฟ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจสอบระบบเชื้อเพลิง: ตรวจสอบท่อน้ำมันเชื้อเพลิงว่าไม่มีรอยรั่วหรือรอยแตก หากพบรอยรั่วซึม ควรรีบนำรถเข้าซ่อมแซมทันที
- ตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำ: น้ำในหม้อน้ำมีหน้าที่ระบายความร้อนให้เครื่องยนต์ หากน้ำในหม้อน้ำแห้ง เครื่องยนต์จะร้อนจัด ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้ได้
- ดูแลรักษาเครื่องยนต์: การดูแลรักษาเครื่องยนต์ตามระยะทาง เช่น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดไฟไหม้ได้
ข้อควรปฏิบัติ
- ไม่ควรดัดแปลงระบบไฟฟ้า: การดัดแปลงระบบไฟฟ้าเอง อาจทำให้เกิดความผิดพลาดและเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้ ควรให้ช่างผู้ชำนาญทำการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า
- ไม่ควรบรรทุกสัมภาระที่ติดไฟง่าย: หลีกเลี่ยงการบรรทุกวัตถุไวไฟ เช่น กระป๋องสเปรย์ น้ำมัน ทินเนอร์ หรือ พลุ ไว้ในรถ
- ไม่สูบบุหรี่ในรถ: บุหรี่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดไฟไหม้รถ ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ในรถยนต์
- ระมัดระวังในการจอดรถ: ไม่ควรจอดรถใกล้แหล่งความร้อน เช่น กองขยะ หรือ บริเวณที่มีหญ้าแห้ง
- ติดตั้งถังดับเพลิง: ควรมีถังดับเพลิงติดรถยนต์ไว้ และควรศึกษาวิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง
- มีสติเมื่อเกิดเหตุการณ์: หากเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ เช่น มีกลิ่นไหม้ ควัน หรือ เสียงผิดปกติ ให้รีบจอดรถในที่ปลอดภัย ดับเครื่องยนต์ และออกจากรถทันที
สัญญาณเตือนไฟไหม้รถ
- มีกลิ่นไหม้
- มีควันขึ้น
- ได้ยินเสียงผิดปกติจากเครื่องยนต์
- เห็นเปลวไฟ
หากพบสัญญาณเตือนเหล่านี้ ให้รีบจอดรถในที่ปลอดภัยและออกจากรถทันที จากนั้นโทรแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 หรือ 199
การป้องกันไฟไหม้รถยนต์เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม การดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอ การปฏิบัติตามข้อควรระวัง และการมีสติเมื่อเกิดเหตุการณ์ จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดไฟไหม้รถ และช่วยให้คุณปลอดภัยจากอันตราย
จำไว้ว่า: ความปลอดภัยของคุณสำคัญที่สุด หากเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้รถ สิ่งสำคัญที่สุดคือตั้งสติและปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างรวดเร็วเพื่อเอาชีวิตรอด