
เรื่องน้ำท่วมรถเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเตรียมรับมือไว้ก่อน มีหลายวิธีที่ช่วยป้องกันรถของคุณจากภัยน้ำท่วมได้
การป้องกันน้ำท่วมรถเป็นสิ่งสำคัญในช่วงฤดูฝนหรือเมื่อมีเหตุการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้น ต่อไปนี้คือวิธีป้องกันน้ำท่วมรถที่สามารถทำได้:
1. ติดตามข่าวสาร:
- เช็คพยากรณ์อากาศ: ฟังพยากรณ์อากาศสม่ำเสมอ เพื่อเตรียมตัวรับมือฝนตกหนัก
- แอพพลิเคชั่นเตือนภัย: โหลดแอพฯ ที่แจ้งเตือนภัยพิบัติ เช่น แอพพลิเคชั่น “Thai Water” ของกรมชลประทาน จะช่วยให้คุณรู้ระดับน้ำในพื้นที่ต่างๆ ได้
- ข่าวสารจากหน่วยงานราชการ: ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรุงเทพมหานคร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น
2. หาที่จอดรถที่ปลอดภัย:
- ที่จอดรถสูง: หากบ้านอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ควรหาที่จอดรถที่สูง เช่น อาคารจอดรถ ชั้นสองของบ้าน หรือที่ที่น้ำท่วมไม่ถึง
- หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง: อย่าจอดรถในที่ลุ่ม ใกล้ทางระบายน้ำ ใต้สะพาน หรือริมแม่น้ำ
3. เตรียมอุปกรณ์ป้องกัน:
- ผ้าคลุมรถกันน้ำ: คลุมรถด้วยผ้าคลุมกันน้ำอย่างดี เลือกชนิดที่หนา ทนทาน และกันน้ำได้จริง
- ถุงพลาสติก: ใช้ถุงพลาสติกขนาดใหญ่ คลุมท่อไอเสีย หรืออุดท่อในชุดกรองอากาศ เพื่อป้องกันน้ำเข้า
- แผ่นยางรองพื้น: หาแผ่นยางหรือพลาสติกหนามารองพื้นรถ เพื่อป้องกันน้ำซึมเข้าใต้ท้องรถ
- ซีลยาง: ตรวจสอบซีลยางรอบประตู หน้าต่าง กระโปรงรถ และฝากระโปรงท้าย ให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยฉีกขาด
4. ย้ายรถหนีน้ำท่วม:
- เคลื่อนย้ายรถ: หากน้ำเริ่มท่วมสูง ให้รีบเคลื่อนย้ายรถไปยังที่ปลอดภัยทันที
- ขับรถลุยน้ำ: หากจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำ ควรขับช้าๆ ใช้เกียร์ต่ำ และรักษาระดับความเร็วให้คงที่
5. กรณีน้ำท่วมรถ:
- ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์: หากน้ำท่วมเข้ารถ ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์เด็ดขาด เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายหนัก
- ตัดระบบไฟ: ถอดขั้วแบตเตอรี่ออก เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
- แจ้งประกันภัย: ติดต่อบริษัทประกันภัย เพื่อแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือ
ข้อควรจำ:
- เตรียมพร้อม: การเตรียมพร้อมรับมือล่วงหน้า เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันน้ำท่วมรถ
- อย่าประมาท: แม้จะเตรียมการอย่างดี แต่ก็อย่าประมาท ควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
- ความปลอดภัยต้องมาก่อน: หากสถานการณ์ไม่ปลอดภัย ให้รีบออกจากรถ และไปยังที่ปลอดภัยทันที

สรุปวิธีป้องกันน้ำท่วมรถ
จอดรถในที่สูง: หากมีพายุหรือน้ำท่วม ควรหาที่จอดรถในบริเวณที่สูงกว่า เช่น อาคารจอดรถหลายชั้น หรือบริเวณที่ไม่มีโอกาสเกิดน้ำท่วมสูง
หลีกเลี่ยงการขับรถผ่านน้ำท่วม: หากเห็นว่ามีถนนน้ำท่วม ควรหลีกเลี่ยงการขับรถผ่าน เนื่องจากน้ำอาจเข้าสู่เครื่องยนต์หรือระบบไฟฟ้าของรถและทำให้เกิดความเสียหาย
ปิดกระจกและประตูให้แน่น: หากน้ำเริ่มสูงขึ้น ควรปิดกระจกและประตูรถให้แน่นเพื่อป้องกันน้ำเข้าในห้องโดยสาร
ตรวจสอบระบบระบายน้ำ: ตรวจสอบระบบระบายน้ำของถนนที่คุณใช้เป็นประจำว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่ และตรวจสอบท่อระบายน้ำในบริเวณบ้านหรือที่ทำงานเพื่อป้องกันน้ำท่วม
ยกแบตเตอรี่หรือถอดแบตเตอรี่รถออก: หากต้องจอดรถในบริเวณที่เสี่ยงต่อการน้ำท่วม ควรถอดหรือยกแบตเตอรี่ขึ้นให้พ้นน้ำเพื่อป้องกันความเสียหายจากไฟฟ้าลัดวงจร
เคลือบกันน้ำ (Waterproofing): การเคลือบกันน้ำบนชิ้นส่วนของรถ เช่น ช่องระบายอากาศหรือบริเวณที่น้ำสามารถเข้าได้ อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายจากน้ำ
ใช้ผ้าคลุมกันน้ำ: ผ้าคลุมรถที่กันน้ำสามารถช่วยป้องกันไม่ให้น้ำซึมเข้าสู่ตัวรถได้ แต่ไม่ควรใช้หากพื้นที่จอดมีน้ำท่วมสูง
ติดตั้งอุปกรณ์เสริม: มีอุปกรณ์บางชนิดที่สามารถช่วยป้องกันน้ำท่วม เช่น แผ่นป้องกันน้ำท่วมที่ติดตั้งรอบฐานของรถ หรืออุปกรณ์ยกสูงรถ (Lift kit)