โลกคู่ขนาน (Multiverse) หรือที่มักเรียกว่า “Paralleluniversum” ในภาษาเยอรมัน เป็นแนวคิดที่ว่าอาจมีเอกภพอื่น ๆ นอกเหนือจากเอกภพที่เรารู้จัก ซึ่งอาจมีกฎทางฟิสิกส์ที่แตกต่างกัน หรือแม้กระทั่งมีสำเนาของตัวเราเองที่ใช้ชีวิตแตกต่างจากเรา โลกคู่ขนานเป็นแนวคิดที่น่าสนใจและได้รับการสำรวจในหลากหลายสาขา ทั้งปรัชญา ฟิสิกส์ และแม้แต่วรรณกรรมและภาพยนตร์
ในทางฟิสิกส์ มีทฤษฎีหลายอย่างที่เสนอความเป็นไปได้ของโลกคู่ขนาน เช่น:
- ทฤษฎีสตริง: เสนอว่าอาจมีมิติที่ซ่อนอยู่มากมาย และแต่ละมิติอาจมีเอกภพของมันเอง
- ทฤษฎีเงินเฟ้อ: เสนอว่าเอกภพของเราอาจเป็นเพียงหนึ่งในฟองอากาศจำนวนมากใน “ทะเล” ของเอกภพที่กำลังขยายตัว
- การตีความหลายโลกของกลศาสตร์ควอนตัม: เสนอว่าทุกครั้งที่มีการวัดผลทางควอนตัม เอกภพจะแตกแขนงออกเป็นหลายเอกภพ แต่ละเอกภพมีผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน
ในทางปรัชญา แนวคิดเรื่องโลกคู่ขนานถูกนำมาใช้ในการสำรวจคำถามเกี่ยวกับความเป็นจริง ตัวตน และความเป็นไปได้
ในวัฒนธรรมสมัยนิยม โลกคู่ขนานเป็นธีมยอดนิยมในนิยายวิทยาศาสตร์และแฟนตาซี มักใช้เพื่อสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางข้ามมิติ การพบกับตัวเองในอีกโลกหนึ่ง หรือการสำรวจความเป็นไปได้อื่น ๆ ของชีวิต
ถึงแม้ว่าแนวคิดเรื่องโลกคู่ขนานจะยังเป็นที่ถกเถียงและยังไม่มีหลักฐานยืนยันที่ชัดเจน แต่ก็เป็นแนวคิดที่น่าสนใจและกระตุ้นความคิดเกี่ยวกับธรรมชาติของเอกภพและความเป็นจริงของเรา
ใครเป็นคนคิดทฤษฎีโลกคู่ขนาน
แนวคิดเรื่องโลกคู่ขนาน หรือ Multiverse นั้นมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนามากมาย ไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นคนแรกที่คิดค้นแนวคิดนี้ขึ้นมา แต่มีบุคคลสำคัญหลายคนที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาและทำให้แนวคิดนี้เป็นที่รู้จักและยอมรับในวงกว้างมากขึ้น
บุคคลสำคัญ:
- Hugh Everett III: นักฟิสิกส์ชาวอเมริกัน ผู้เสนอ “การตีความหลายโลก” ของกลศาสตร์ควอนตัมในปี 1957 ซึ่งเป็นหนึ่งในทฤษฎีที่สนับสนุนแนวคิดเรื่องโลกคู่ขนาน
- Erwin Schrödinger: นักฟิสิกส์ชาวออสเตรีย ผู้คิดค้นสมการชโรดิงเงอร์ ซึ่งเป็นพื้นฐานของกลศาสตร์ควอนตัม และมีส่วนในการนำไปสู่การตีความหลายโลก
- นักปรัชญาและนักวิทยาศาสตร์ในอดีต: แนวคิดเรื่องโลกคู่ขนานหรือความเป็นไปได้อื่น ๆ ของความเป็นจริง มีปรากฏอยู่ในงานเขียนของนักปรัชญาและนักวิทยาศาสตร์หลายคนในอดีต เช่น Gottfried Wilhelm Leibniz และ William James
สรุป:
ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งที่สามารถอ้างสิทธิ์ในการเป็นผู้คิดค้นทฤษฎีโลกคู่ขนานได้อย่างเต็มที่ แต่เป็นผลจากการพัฒนาและการสะสมความรู้ทางวิทยาศาสตร์และปรัชญามาอย่างยาวนาน และยังคงเป็นหัวข้อที่น่าสนใจและได้รับการศึกษาต่อเนื่องในปัจจุบัน