เงินกีบ (สัญลักษณ์: ₭ หรือ ₭N; รหัส: LAK) เป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการของประเทศลาว ออกใช้โดยธนาคารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ลักษณะสำคัญของเงินกีบ:
- หน่วยย่อย: 1 กีบ แบ่งออกเป็น 100 อัด (ອັດ) แต่ในปัจจุบัน อัดไม่ได้ใช้หมุนเวียนแล้ว เนื่องจากมูลค่าต่ำมาก
- ธนบัตร: ธนบัตรกีบมีหลายชนิดราคา ได้แก่ 1, 5, 10, 20, 50, 100, 500, 1,000, 2,000, 5,000, 10,000, 20,000, 50,000 และ 100,000 กีบ
- เหรียญ: เหรียญกีบมีหลายชนิดราคา ได้แก่ 10, 20 และ 50 อัด แต่ไม่ได้ใช้หมุนเวียนแล้ว
ประวัติเงินกีบ:
- ก่อนปี 1952: ลาวใช้สกุลเงิน “เฟรนช์อินโดจีนเปียสเตอร์” ซึ่งเป็นสกุลเงินของอาณานิคมฝรั่งเศส
- ปี 1952: ลาวออกใช้สกุลเงิน “กีบ” เป็นครั้งแรก โดย 1 กีบมีค่าเท่ากับ 10 เฟรนช์ฟรังก์
- ปี 1979: หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ลาวออกใช้เงินกีบแบบใหม่ โดย 1 กีบใหม่มีค่าเท่ากับ 100 กีบเก่า
- ปัจจุบัน: เงินกีบยังคงเป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการของลาว แต่ค่าเงินมีการผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยอื่นๆ
การใช้งานเงินกีบ:
- ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย: เงินกีบเป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายภายในประเทศลาว
- อัตราแลกเปลี่ยน: เงินกีบสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินตราต่างประเทศได้ตามอัตราแลกเปลี่ยนที่กำหนดโดยธนาคารแห่งลาวและสถาบันการเงินอื่นๆ
ข้อควรทราบ:
- การนำเงินกีบออกนอกประเทศ: การนำเงินกีบออกนอกประเทศลาวมีข้อจำกัดตามกฎหมาย
- การแลกเปลี่ยนเงินตรา: หากเดินทางไปลาว ควรแลกเปลี่ยนเงินบาทไทยเป็นเงินกีบที่ธนาคารหรือร้านแลกเงินที่ได้รับอนุญาต เพื่อความปลอดภัยและได้รับอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นธรรม
ทำไมเงินกีบลาว อ่อนค่าลง ?
เงินกีบอ่อนค่าลงเนื่องจากปัจจัยหลายประการที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของลาวและความต้องการเงินตราต่างประเทศ:
ปัจจัยภายในประเทศ:
- เศรษฐกิจชะลอตัว: เศรษฐกิจลาวได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวและการส่งออกลดลง ส่งผลให้รายได้จากต่างประเทศลดลงและความต้องการเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้น
- หนี้สาธารณะสูง: ลาวมีหนี้สาธารณะที่สูง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้สกุลเงินต่างประเทศ ทำให้รัฐบาลต้องใช้เงินตราต่างประเทศจำนวนมากในการชำระหนี้ ส่งผลให้ความต้องการเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้นและเงินกีบอ่อนค่าลง
- การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด: ลาวนำเข้าสินค้ามากกว่าการส่งออก ทำให้ต้องใช้เงินตราต่างประเทศจำนวนมากในการชำระค่าสินค้าที่นำเข้า ส่งผลให้ความต้องการเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้นและเงินกีบอ่อนค่าลง
- เงินเฟ้อ: อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในลาวทำให้มูลค่าของเงินกีบลดลง
ปัจจัยภายนอกประเทศ:
- การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ: เมื่อดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ รวมถึงเงินกีบ ทำให้เงินกีบอ่อนค่าลง
- ความผันผวนของตลาดการเงินโลก: ความผันผวนของตลาดการเงินโลกและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินของประเทศกำลังพัฒนา เช่น ลาว
- การลดลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์: ลาวเป็นประเทศที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองแดงและแร่ธาตุอื่นๆ เมื่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง รายได้จากการส่งออกของลาวก็ลดลงด้วย ส่งผลให้ความต้องการเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้นและเงินกีบอ่อนค่าลง
สรุป:
การอ่อนค่าของเงินกีบเป็นผลมาจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของลาวในหลายด้าน เช่น ทำให้สินค้านำเข้ามีราคาแพงขึ้น เพิ่มภาระหนี้สาธารณะ และอาจนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นได้